Comparison

คัดมาแล้วเน้นๆ 5 แท็บเล็ต ที่น่าใช้ที่สุดแห่งปี 2023

ทีมงาน What Phone จึงขอหยิบเอาแท็บเล็ต 5 รุ่นที่น่าใช้งานในปีนี้มาให้เลือกชมกันดู จะมีรุ่นไหนบ้างนั้นเรามาชมกันเลยครับ

เดินทางมาถึงสิ้นปีกันแล้ว ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีแท็บเล็ตที่น่าใช้งานออกมาให้เลือกกันหลากหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ทีมงาน What Phone จึงขอหยิบเอาแท็บเล็ต 5 รุ่นที่น่าใช้งานในปีนี้มาให้เลือกชมกันดู จะมีรุ่นไหนบ้างนั้นเรามาชมกันเลยครับ

1. Samsung Galaxy Tab A9 Series

อันดับแรกที่เราแนะนำคือ Samsung Galaxy Tab A9 Series ถือเป็นแท็บเล็ตซีรีส์ที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่น มีหน้าจอหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการ และยังเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ดีที่สุดในเรทราคาเดียวกัน มาดูกันเลยว่าแต่ละรุ่นในซีรีส์นี้มีจุดเด่นอย่างไร

Samsung Galaxy Tab A9

  • Galaxy Tab A9

ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก แต่สเปกและการใช้งานไม่เล็กเลย เริ่มจากประสิทธิภาพที่ทาง Samsung เลือกใช้ชิปเซ็ตใหม่ MediaTek Helio G99 มีเทคโนโลยีเกมมิ่ง MediaTek HyperEngine แบบ Octa-core ความเร็วสูงถึง 2.2 GHz เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 297% ถือว่ามีความแรงพอที่จะเล่นเกมมันส์ๆ ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด และยังมีหน่วยความจำขนาดใหญ่จุใจให้ใช้งานถึง 64GB และหากไม่พอก็สามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD Card ได้อีกสูงสุดถึง 1TB เลยทีเดียว จะดาวน์โหลดเกม หรือภาพยนตร์ก็ใช้งานได้อย่างจุใจ พร้อมให้เสียงที่มีมิติด้วยลำโพงคู่ Dolby Atmos

Samsung Galaxy Tab A9

ขนาดหน้าจอก็เป็นเรื่องสำคัญ Galaxy Tab A9 มีขนาดใหญ่ 8.7 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่พอดีกับการใช้งาน ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป จะดูหนัง ดูคอนเทนต์ อ่านข่าว ดูหุ้น หรือจะเล่นเกมก็ถนัดมือ แถมยังสะดวกในการพกพาด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใส่ซิมการ์ดเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 4G LTE และยังโทรออก รับสาย รับข้อความ SMS/OTP ได้จากตัวเครื่องได้อีกด้วย บอกได้เลยว่าบางรุ่นตัดฟังก์ชั่นนี้ออกไปทั้งๆ ที่ใส่ซิมการ์ดได้เหมือนกัน สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,990 บาทเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่มาครบทุกฟังก์ชั่นจริงๆ

  • Galaxy Tab A9+

ขยับขึ้นมาที่ Galaxy Tab A9+ ที่จัดเต็มเรื่องความเร็ว โดยรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 ซึ่งถือว่าเป็น Galaxy Tab A Series รุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วแรง เป็นหน่วยประมวลผลแบบ Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz มีความเร็วที่พัฒนาจากรุ่นก่อนถึง 48% มีหน่วยความจำขนาดใหญ่จุใจ 128GB และหากไม่พอก็สามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD Card ได้อีกสูงสุดถึง 1TB นอกจากนี้ยังรองรับ Samsung DeX รุ่นแรกใน Galaxy A Series ใช้งานได้เหมือนกับ PC เลยทีเดียว

Samsung Galaxy Tab A9

สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือจอแสดงผลที่มีให้ใช้งานขนาดใหญ่ถึง 11 นิ้ว จะดูคอนเทนต์ ดูหนัง เล่นเกมก็ลื่นไหลด้วยการแสดงผล Refresh rate ถึง 90 Hz เต็มอิ่มกับลำโพง 4 ตัวระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้มิติเสียงสมจริง และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 11 นิ้วยังสามารถแบ่งหน้าจอออกเป็น 3 จอ ใช้งานได้หลายแอปฯ ในเวลาเดียวกัน ไม่รวม Pop-up View ที่เปิดเพิ่มได้อีกหลายจอเลย สุดท้ายกับตัวเลือกอีก 2 รุ่นย่อยมีให้เลือกตามการใช้งาน หากเน้นทำงานที่บ้าน ที่ออฟฟิศเป็นหลักก็เลือกรุ่น Wi-Fi ในราคาประหยัดกว่าเพียง 8,990 บาท และหากนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ ต้องเลือกรุ่น 5G สามารถใส่ซิมการ์ด โทรออก รับสาย รับส่งข้อความ SMS / OTP ได้ทันที ในราคา 10,990 บาท เป็นอีก 2 ตัวเลือกที่เหมาะกับการใช้งานทุกไลฟ์สไตล์

Samsung Galaxy Tab A9

การวางจำหน่าย

Galaxy Tab A9 มี 1 สี คือ สี Graphite

Galaxy Tab A9+ มี 2 สี ได้แก่ สี Silver และ Navy

Galaxy Tab A9 / A9+ วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยมีราคาดังนี้

  • Galaxy Tab A9 LTE (4/64GB) : 6,990 บาท
  • Galaxy Tab A9+ Wi-Fi (8/128GB) : 8,990 บาท
  • Galaxy Tab A9+ 5G (8/128GB) : 10,990 บาท

โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567

  • แถมฟรี! Book Cover มูลค่า 1,590 บาท เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อ Galaxy Tab A9+
  • รับส่วนลดทันที 40% สำหรับ Book Cover เมื่อซื้อพร้อม Galaxy Tab A9

Link https://bit.ly/485nESl

2. Samsung Galaxy Tab S9 FE Series

มาถึง Galaxy Tab S9 FE Series แท็บเล็ตซีรีส์น้องใหม่ในตระกูล FE ที่เราอยากแนะนำด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก แต่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายขึ้นมาอีก ด้วยปากกา S Pen ที่มีมาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงานที่ต้องใช้ปากกาในการจดบันทึก วาดภาพ ทำ Presentation สร้างสรรค์ผลงานได้ด้วยแท็บเล็ตเพียงเครื่องเดียวในราคาเริ่มต้นเพียง 16,990 บาทเท่านั้น

Galaxy Tab S9 FE Series ยังมีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด โดยในรุ่น Galaxy Tab S9 FE มีขนาดหน้าจอ 10.9 นิ้ว และ Galaxy Tab S9 FE+ มีขนาดหน้าจอขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว เป็นจอภาพ LCD ที่ให้สีสันสดใส แสดงผลได้อย่างลื่นไหลด้วย Refresh rate 90Hz ความสว่างสู้แสงแดดถึง 600 nits สามารถใช้ร่วมกับปากกา S Pen ที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจดโน้ตด่วน การแต่งภาพ การตัดต่อวิดีโอ ไดคัท/แคปภาพจากวิดีโอ หรือการแปลภาษาเพียงแค่เอาปากกาชี้ ใช้งานได้อย่างยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับ Fast charge ด้วยกำลังไฟถึง 45 วัตต์ นอกจากนี้ตัวเครื่องและ S Pen ยังกันน้ำ กันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกด้วย

สำหรับรุ่น Galaxy Tab S9 FE 5G และ FE+ 5G สามารถใส่ซิมการ์ดเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบนเครือข่าย 5G เลือกใช้ได้ทั้งซิมการ์ดแบบปกติ และ eSIM รองรับการโทรศัพท์ พร้อมรับข้อความ SMS / OTP ได้เช่นกัน

ราคาเปิดตัวของ Galaxy Tab S9 FE Series ทั้ง 3 รุ่น ที่วางจำหน่าย มีดังนี้

  • Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi (6/128GB) : 16,990 บาท
  • Galaxy Tab S9 FE 5G (6/128GB) : 19,990 บาท
  • Galaxy Tab S9 FE+ Wi-Fi (8/128GB) : 23,900 บาท
  • Galaxy Tab S9 FE+ 5G (8/128GB) : 27,900 บาท

โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567

  • รับส่วนลดทันที 2,000 บาท เมื่อซื้อ Galaxy Tab S9 FE+
  • รับส่วนลดทันที 30% สำหรับ Smart Book Cover หรือ Book Cover Keyboard Slim เมื่อซื้อพร้อม Galaxy Tab S9 FE และ Galaxy Tab S9 FE+

Link สั่งซื้อ https://bit.ly/3GrHWJL

3. Samsung Galaxy Tab S9 Series

Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตสเปกแรงในระดับ Flagship ของทาง Samsung ที่พัฒนาให้เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED 2X, ชิปประมวลผลในระดับแถวหน้าอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 พร้อมปากกา S Pen คู่ใจคนใช้แท็บเล็ต เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความแรงและจอสวยขั้นสุดเพื่อใช้ในงานระดับมืออาชีพในราคาเริ่มต้น 28,900 บาท

แท็บเล็ตตัวท็อปที่มาพร้อมหน้าจอที่ดีที่สุดอย่าง Dynamic AMOLED 2X ให้สีสันสวยงามสมจริง ความสว่างสู้แสงแดดถึง 750 nits ลื่นไหลด้วยการแสดงผลในระดับ 120Hz กับขนาดหน้าจอที่ให้เลือก 3 ขนาด โดยในรุ่น Galaxy Tab S9 จะมีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว, Galaxy Tab S9+ จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 12.4 นิ้ว และ Galaxy Tab S9 Ultra จะมีหน้าจอขนาดใหญ่สะใจถึง 14.6 นิ้ว จะจดบันทึก วาดภาพ ขีดเขียน หรือสร้างผลงานได้ด้วยปากกา S Pen ที่มีมาให้ในกล่องก็ทำได้เต็มที่เลย

ในด้านประสิทธิภาพ ความแรงในระดับ Best in class performance ก็มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่มีความแรงในระดับแถวหน้า จะใช้งานทั่วไป หรือเล่นเกม 3D แบบหนักๆ ก็เอาอยู่ มีระบบการจัดการความร้อนที่ดี เครื่องแรงเร็ว ไม่หน่วง ไม่ร้อน พร้อมรองรับ Ray Tracing ช่วยให้การประมวลผลกราฟิกในเกมทำได้สมจริงยิ่งขึ้น ปรับเปลี่ยนการทำงานด้วย DeX Mode พร้อมทำงานได้ทุกที่เหมือนมีคอมพิวเตอร์ติดตัว นอกจากนี้ยังใช้วัสดุ Armor Aluminum มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการตกหล่น พร้อมป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ทั้งแท็บเล็ตและ S Penโดยรวมแล้วถือเป็นแท็บเล็ตที่ครบเครื่องทั้งในด้านการดีไซน์ ประสิทธิภาพ การใช้งาน และความบันเทิง

ราคาเปิดตัวของ Galaxy Tab S9 Series ทั้ง 3 รุ่น ที่วางจำหน่าย มีดังนี้

  • Galaxy Tab S9 Wi-Fi (8/128GB) ราคา 28,900 บาท
  • Galaxy Tab S9 5G (8/128GB) ราคา 32,900 บาท
  • Galaxy Tab S9+ Wi-Fi (12/256GB) ราคา 35,900 บาท
  • Galaxy Tab S9+ 5G (12/256GB) ราคา 39,900 บาท
  • Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12/256GB) ราคา 49,900 บาท

โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567

  • รับส่วนลดทันที 3,000 บาท เมื่อซื้อ Galaxy Tab S9 Series (ทุกรุ่น)
  • รับส่วนลดทันที 30% สำหรับ Book Cover Keyboard Slim เมื่อซื้อพร้อม Galaxy Tab S9 Series

Link https://bit.ly/47HM6Jq

4. iPad Air

ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวมาเกือบปีแล้ว และยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมา (คาดว่าเปิดตัวต้นปีหน้า) แต่ iPad Air ก็ยังคงน่าใช้งาน ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูตามสไตล์ Apple มีจอแสดงผลแบบ Liquid Retina Display ขนาดใหญ่ 10.9 นิ้ว มีให้เลือกหลากสีตามสไตล์ที่ชอบ จอแสดงผลมีความสว่างสูงสุด 500 nits สามารถใช้งานร่วมกับปากกา Apple Pencil รุ่นที่ 2 แต่ก็จะต้องซื้อเพิ่มในราคา 4,990 บาท หรือหากเป็น Apple Pencil ราคาประหยัดก็ต้องซื้อเพิ่มในราคา 3,190 บาท

iPad Air 4 Lineup

ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน Apple เลือกใช้ชิป Apple M1 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ค่อนข้างดี มีหน่วยความจำให้เลือกทั้ง 64GB และ 256GB แต่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ และยังมีให้เลือกใช้งานเป็นรุ่น Wi-Fi และ Wi-Fi+Cellular รองรับเครือข่าย 5G แต่น่าเสียดายที่ทาง Apple ตัดฟังก์ชั่นการโทรออก-รับสาย และการรับข้อความ SMS ออกไป โดยรวมแล้วอาจจะราคาสูงไปนิดนึง อุปกรณ์เสริมอย่างปากกา Apple Pencil ต้องซื้อเพิ่ม แต่ถ้าชื่นชอบในแบรนด์ และการใช้งานที่เสถียรก็จัดไปได้เลย

ราคาเปิดตัว

  • iPad Air 64GB Wi-Fi ราคา 23,900 บาท
  • iPad Air 64GB Wi-Fi+Cellular ราคา 29,900 บาท
  • iPad Air 256 GB Wi-Fi ราคา 29,900 บาท
  • iPad Air 256 GB Wi-Fi+Cellular ราคา 35,900 บาท

Link สั่งซื้อ https://apple.co/47W34Uu

5. HUAWEI MATEPAD 11.5″

HUAWEI MatePad 11.5″ ด้วยราคาเพียง 9,990 บาทในรุ่น WiFi ที่ดูน่าสนใจ และในรุ่น 4G LTE + WiFi ราคา 13,990 บาท มาพร้อมปากกาจดบันทึกอย่าง HUAWEI M-Pencil เวอร์ชั่น 2 ที่ทำให้การทำงาน วาดรูปทำได้เหมือนจริงมากขึ้น และยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนาน ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 เสริมทัพด้วยอุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI Smart Keyboard ที่ทำให้การทำงานใกล้เคียง PC มากกว่าเดิม 

การใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ 11.5 นิ้วจุดเด่นที่ทำให้ใช้งานสะดวก กับน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไป แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน จะใช้ทำงาน หรือเล่นเกม ฟังเพลงก็ทำได้เต็มที่บนหน้าจอ 11.5 นิ้ว แต่หากใครที่กังวลรุ่นนี้ว่าไม่มีบริการของ Google Service (เช่น Google Drive, Google Docs, YouTube ฯลฯ) เดี๋ยวนี้ก็มีแอปฯ เสริมที่ทำให้ใช้บริการของ Google ได้อย่างเช่นแอปฯ GBox เป็นต้น ทำให้ใช้บริการของ Google ได้อยู่ สำหรับใครที่มองหาแท็บเล็ตดีๆ ราคาไม่แพง ใช้งานครบเครื่อง ลองเปิดใจให้รุ่นนี้ดูครับ

ราคาเปิดตัว 

  • HUAWEI MatePad 11.5 6/128GB Wi-Fi ราคา 9,990 บาท 
  • HUAWEI MatePad 11.5 6/128GB LTE ราคา 13,990 บาท 

Link สั่งซื้อ https://bit.ly/3Tn48fI 

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save