หากกำลังมองหาแท็บเล็ตจอใหญ่ๆ มองเห็นได้เต็มตา มีความสามารถครบครัน วันนี้เรามี HUAWEI MatePad 11.5″ มานำเสนอ ด้วยราคาเพียง 9,990 บาทเท่านั้น มาพร้อมปากกาจดบันทึกอย่าง HUAWEI M-Pencil เวอร์ชั่น 2 ที่ทำให้การทำงาน วาดรูปทำได้เหมือนจริงมากกว่าเดิม และยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนาน เสริมทัพด้วยอุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI Smart Keyboard ที่ทำให้การทำงานใกล้เคียง PC มากกว่าเดิม การใช้งานจริงเป็นอย่างไรนั้น เรามาแกะกล่องดูกันเลยครับ
แกะกล่อง รีวิว HUAWEI MATEPAD 11.5″
เมื่อแกะกล่องแท็บเล็ตออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- แท็บเล็ต Huawei MatePad 11.5″ สี Space Gray
- อแดปเตอร์ Huawei SuperCharge 22.5 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- คู่มือการใช้งาน
ภายในกล่องก็จะมีอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างเช่นอแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge 22.5 วัตต์ สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นแถม HUAWEI M-Pencil ที่มาพร้อมสายชาร์จแบตเตอรี่มาให้ด้วย จึง โดยการใช้งานครั้งแรกจะต้องเสียบสายชาร์จเข้ากับแท็บเล็ตเพื่อเชื่อมต่อ และชาร์จไฟให้กับ M-Pencil ไปด้วยในตัว
แท็บเล็ตดีไซน์เรียบหรู Metal Unibody Design
ตัวเครื่องของ HUAWEI MatePad 11.5″ รุ่นนี้ใช้วัสดุเป็นโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียว หรือ Metal Unibody Design ที่ดูเรียบหรู ใช้โทนสี Space Gray มาพร้อมหน้าจอ FullView Display ขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ความละเอียด 2200 x 1440 พิกเซล มีอัตราการแสดงผล 120 Hz ทำให้การปัดเลื่อนเมนูต่างๆ ทำให้เนียนตามากยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน และเมื่อวางเครื่องในแนวนอนก็จะเห็นกล้องหน้าสำหรับ Video call หรือใช้ในการประชุมออนไลน์อยู่ตรงกลางด้านบน หน้าจอยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา M-pencil ด้วย
จอแสดงผลยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ลดแสงสีฟ้า ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของสายตา และหน้าจอที่ปราศจากการกระพริบ สามารถจ้องจอนานๆ โดยไม่รู้สึกเมื่อยล้าดวงตา
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นสี Space Gray หรือสีเทาเข้ม มีโลโก้ HUAWEI โดดเด่นอยู่ตรงกลาง แถบด้านบนเป็นส่วนของเสาอากาศรับสัญญาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสารับสัญญาณเครือข่าย 4G, WiFi, Bluetooth ส่วนกล้องมีเลนส์รับภาพมี 1 เลนส์ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
เมื่อวางเครื่องในแนวนอน ด้านข้างซ้ายมีปุ่มเปิดปิดเครื่อง พร้อมลำโพงฝั่งซ้ายที่มีมาให้ 2 ตัว ที่ด้านข้างขวายังมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และยังทำหน้าที่เป็นช่องเสียบสายชาร์จของ M-Pencil ด้วย ถัดมาก็มีลำโพงอีก 2 ตัว เมื่อรวมกับลำโพงอีกด้านก็จะรวมเป็น 4 ตัว ระบบเสียง Histen 8.1ให้เสียงดัง และมีมิติดีมากเมื่อเปิดฟังเพลง หรือดูภาพยนตร์
ที่ด้านบนของเครื่องที่เราได้มาทดสอบมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 1 SIM แต่หากเป็นรุ่น WiFi จะไม่มีช่องใส่ SIM มาให้ ถัดมาเป็นรูเล็กๆ 2 รู ซึ่งเป็นไมโครโฟนรับเสียงพร้อมทั้งช่วยตัดเสียงรบกวนด้วย และสุดท้ายเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ส่วนล่างของตัวเครื่องมี POCO Pin สำหรับเชื่อมต่อกับ HUAWEI Smart Keyboard
มาพร้อมปากกา HUAWEI M-Pencil
ในแพ็คเก็จจะมี HUAWEI M-Pencil มาให้เลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 ที่พัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ภายตัวปากกามีแบตเตอรี่ในตัว เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีบลูทูธ ในกล่องมีหัวปากกามีสำรองมาให้อีก 1 หัว สามารถเปลี่ยนไปใช้แบบใส หรือแบบทึบได้ตามใจขอบ จากการทดสอบเขียนด้วยหัวปากกาทั้งสองแบบยังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในการวาดเขียนบนหน้าจอ
นอกจากนี้ยังมีสายชาร์จ M-Pencil มาให้ เพราะตัวแท็บเล็ตไม่สามารถชาร์จปากกาได้เหมือนกับ MatePad Pro สำหรับการใช้งานครั้งแรกจะต้องนำสายชาร์จมาประกบกับตัว M-Pencil ก่อน จากนั้นจึงเสียบสายเข้ากับพอร์ต USB-C ของแท็บเล็ตก็เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และทำการเชื่อมต่อกับ MatePad 11.5″ ในครั้งแรก และครั้งเดียวเท่านั้นก็จะสามารถใช้งานได้ตลอดไป เมื่อเชื่อมต่อแล้วก็จะมีระดับแบตเตอรี่ของ M-Pencil บอกด้วย
การใช้งานก็สามารถใช้ได้อย่างสะดวก ตัวปากกามีน้ำหนักเบา รองรับน้ำหนักการขีดเขียนบนหน้าจอได้ถึง 4,096 ระดับ จะวาดเส้นหนักเบาก็ทำได้เหมือนปากกาจริงๆ สามารถสลับปากกาเป็นยางลบได้ง่ายๆ เพียงแตะที่ตัวปากกา 2 ครั้ง จะขีดเขียน หรือลบข้อความก็ทำได้อย่างสะดวก และเมื่อทำงานร่วมกับแอปฯ HUAWEI Notes ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจดโน้ต, การสร้างเอกสารเพื่อนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการนำภาพมาตัดแปะ หรือนำเข้า-ส่งออกเป็นไฟล์เอกสาร PDF ได้
Huawei Smart Keyboard
สำหรับเคสปกป้องตัวเครื่องก็มีอุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI Smart Keyboard มาหให้ แต่อุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ต้องทำการซื้อเพิ่มเติม เพื่อเสริมให้การใช้งานเหมือนกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมากขึ้น และยังช่วยปกป้องตัวเครื่องไม่ให้เป็นรอย พิมพ์งาน หรือข้อความได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน แต่เครื่องที่เราได้มาทดสอบยังคงเป็นคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษ สำหรับเครื่องที่วางจำหน่ายในไทยจะมีตัวอักษรภาษาไทยสกรีนมาให้เลยทุกปุ่ม วัสดุด้านนอกทำจากหนังเทียม ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกถือกระชับ ดูพรีเมี่ยม ไม่ลื่นหลุดมือง่ายๆ
ความพิเศษของ HUAWEI Smart Keyboard นี้ยังสามารถแยกชิ้นเคส กับคีย์บอร์ดได้ด้วยแถบแม่เหล็ก และยังสามารถพิมพ์ข้อความได้ขณะที่แยกคีย์บอร์ดออกจากกัน เพราะตัวคีย์บอร์ดมีแบตเตอรี่ในตัว เชื่อมต่อกับ MatePad 11.5″ ด้วย Bluetooth จึงทำให้การใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
การพิมพ์ข้อความต่างๆ ทำได้อย่างสะดวก ด้วยคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานเหมือนกับคอมพิวเตอร์ แต่ตัวคีย์บอร์ดไม่ได้มี Track Pad มาให้ จะต้องอาศัยนิ้วมือแตะสั่งงานบนหน้าจอ หรือหากมี Mouse Bluetooth ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อได้ทันที ให้ความรู้สึกเหมือนกับการใช้คอมพิวเตอร์จริงๆ
และเมื่อต้องการเก็บ M-Pencil ก็สามารถนำมาวางไว้ตรงแถบแม่เหล็กด้านหลังเคสได้ แม่เหล็กจะมีแรงดูดค่อนข้างแรง หากถือปกติจะไม่หลุดง่ายๆ แต่หากมือไปปัดโดนก็อาจจะทำให้ปากกา M-Pencil ร่วงหล่นได้ ทางที่ดีควรหันด้านที่มีปากกาไว้ให้อยู่ในอุ้งมือจะดีกว่า
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1
HUAWEI MatePad 11.5″ ได้นำระบบปฏิบัติการ HarmonyOS มาใช้กับแท็บเล็ตรุ่นนี้เป็นเวอร์ชั่น 3.1 แล้ว การใช้งานก็ไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องปรับตัวเรียนรู้การใช้งานใหม่ทั้งหมด แอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก HUAWEI AppGallery ซึ่งในปัจจุบันก็มีแอพฯ ต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมายครบทุกความต้องการ ไมว่าจะเป็นแอปฯ การเงิน การธนาคาร, แอปฯ สำหรับการทำงานก็มี WPS Office มาให้ หรือจะเป็นแอปฯ แชทอย่าง Line หรือเกมก็มีให้เลือกเล่นอย่างครบครัน
หน่วยประมวลผล Snapdragon 7 Gen 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย WiFi 6
Huawei MatePad 11.5″ ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 มาใช้กับรุ่นนี้ ส่งผลให้การประมวลผลทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทั้งการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม โดยชิพรุ่นนี้เป็นแบบ Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz, ชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 644 หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB, ROM 128 GB ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้ ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะรองรับเฉพาะ WiFi เท่านั้น เพราะ HUAWEI ประเทศไทยนำเข้ามาจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว
จากการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วของหน่วยประมวลผลด้วยแอพฯ Antutu Benchmark 3D เวอร์ชั่น 10.0.1 สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 711,505 คะแนน
ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 6 ก็ทำคะแนน Single-core ได้ 1033 คะแนน ส่วน Multi-core ทำคะแนนได้ 2806 คะแนน ส่วนการทดสอบหน่วยประมวลผล 3D ก็สามารถทำได้ 2482 คะแนนถือว่าทำคะแนนได้ค่อนข้างสูงทีเดียว
ถ่ายภาพคมชัดด้วยกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ในด้านการถ่ายภาพ กล้องหลังของรุ่นนี้ก็มีมาให้ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/f1.8 เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพเพื่อนำไปใช้งาน มีโหมดต่างๆ ให้เลือกถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Beauty ปรับความเนียนของใบหน้าได้ 10 ระดับ, Panorama, Time-lapse, Sticker และ Document สำหรับการถ่ายเอกสารเก็บไว้ ซูมภาพแบบดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า ส่วนการถ่ายวิดีโอก็สามารถเลือกถ่ายได้ที่ความละเอียดระดับ 4K 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลก็มีโหมด Beauty สำหรับถ่ายภาพปรับแต่งหน้าเนียนใส อีกทั้งยังนำไปใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์, ประชุมออนไลน์, วิดีโอคอลล์ หรือโทรผ่าน MeeTime ก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7700 mAh SuperCharge 22.5 วัตต์
แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ของ Huawei MatePad 11.5″ รุ่นนี้มีความจุถึง 7700 mAh เปิดใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด มาพร้อมอแดปเตอร์ SuperCharge ด้วยกำลังไฟ 22.5 วัตต์ โดยจากการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่เหลือ 1% ไปจนเต็ม 100% ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหน แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และระบบชาร์จเร็วก็เอาอยู่
บทสรุป รีวิว HUAWEI MATEPAD 11.5″ จากความเห็นของ WHAT PHONE
จากความรู้สึกหลังการใช้งานมาสักระยะถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่ HUAWEI ทำออกมาได้เกินราคา กับการเปิดตัวที่ไม่ถึงหมื่นบาท แถมยังได้ปากกา M-Pencil ที่ใช้งานได้เหมือนกับการจดบันทึกจริงๆ และยิ่งใช้งานร่วมกับ HUAWEI Notes ยิ่งทำให้การใช้แท็บเล็ตรุ่นนี้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจคือหน้าจอขนาดใหญ่ กับน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไป แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน จะใช้ทำงาน หรือเล่นเกม ฟังเพลงก็ทำได้เต็มที่บนหน้าจอ 11.5 นิ้ว แต่หากใครที่กังวลว่าไม่มีบริการของ Google เดี๋ยวนี้ก็มีแอปฯ เสริมที่ทำให้ใช้บริการของ Google ได้อย่างเช่นแอปฯ GBox เป็นต้น ทำให้ใช้บริการของ Google ได้อยู่ สำหรับใครที่มองหาแท็บเล็ตดีๆ ราคาไม่แพง ใช้งานครบเครื่อง ลองเปิดใจให้รุ่นนี้ดูครับ ใช้งานได้ดีแบบไร้รอยต่อเลยทีเดียว
สรุปสเป็ค HUAWEI MATEPAD 11.5″
- ขนาด : 176.82 x 260.88 x 6.85 มม., น้ำหนัก 499 กรัม
- เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi6 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2 × 2 MIMO, HE160, 2.4 GHz และ 5 GHz
- หน้าจอ IPS ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 พิกเซล, Refresh rate 120 Hz
- รองรับ HUAWEI M-pencil Gen 2 และ HUAWEI Smart Keyboard
- กล้องหน้า 8 MP f/2.2 Selfie Camera
- กล้องหลัง 13 MP f/1.8
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K, 30 fps
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa-core 2.4 GHz (4nm), GPU Adreno 644
- หน่วยความจำ 6 GB RAM + 128 GB ROM
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1
- ไมโครโฟน 2 ตัว และลำโพง 4 ตัวรอบเครื่อง
- แบตเตอรี่ 7700 mAh รองรับ SuperCharge 22.5 วัตต์
- สี Space Gray
- รุ่น WiFi ราคา 9,990 บาท
- รุ่น 4G LTE+WiFi ราคา 13,990 บาท
HUAWEI MatePad 11.5 (6+128GB) WIFI 6 วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับฟรี! ของสมนาคุณมูลค่ารวม 4,919 บาท ได้แก่ HUAWEI M-Pencil 2nd generation มูลค่า 4,490 บาท และ สิทธิ์รับชม WeTV VIP (3 เดือน) มูลค่า 429 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2566 ถึง 8 สิงหาคม 2566 ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada
HUAWEI MatePad 11.5 (6+128GB) LTE version วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท พร้อมโปรโมชัน รับฟรี ปากกา HUAWEI-M Pencil รุ่นที่ 2 มูลค่า 4,490 บาท HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท และสิทธิ์รับชม WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 – 30 กันยายน 2566
สั่งซื้อ: bit.ly/44ekOrJ
You must be logged in to post a comment.