Gadget

รีวิว Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชพันธุ์แกร่งระดับพรีเมี่ยม พร้อมลุยทุกกีฬา ทุกสถานะการณ์

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชที่มีวัสดุที่แข็งแกร่ง ทนทานที่สุดอย่างตัวเรือนไทเทเนียม และฟีเจอร์การออกกำลังกายแบบสมบุกสมบัน ใช้งานได้ยาวนาน

หลังจากที่ Apple Watch ได้วางจำหน่ายมาจนถึง Series 8 ซึ่งเป็นสมาร์ทวอชที่ใช้ได้ในทุกโอกาส โดยเฉพาะการออกกำลังกาย แต่ด้วยวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อาจจะใช้งานได้ไม่สมบุกสมบันมากนัก ในปีนี้ Apple จึงเปิดตัว Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชที่มีวัสดุที่แข็งแกร่ง ทนทานที่สุดอย่างตัวเรือนไทเทเนียม และฟีเจอร์การออกกำลังกายแบบสมบุกสมบัน ใช้งานได้ยาวนาน โดยเฉพาะกิจกรรมเดินป่าที่อาจจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง มาดูกันว่าสมาร์ทวอชพันธุ์แกร่งเรือนนี้ทำอะไรได้บ้าง

Apple Watch Ultra

แกะกล่องลองเล่น Apple Watch Ultra

กล่องของ Apple Watch Ultra จะดูต่างจาก Apple Watch ธรรมดา ตัวกล่องกระดาษมาในแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหลังสามารถเปิดกล่องออกมาได้ทันที เพราะไม่มีอะไรมาหุ้ม และเมื่อเปิดออกมาจะพบกับสมุดคู่มือขนาดใหญ่, กล่อง Apple Watch Ultra, และกล่องสายนาฬิกาสีตามที่ระบุไว้หลังกล่อง

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

ตัวกล่อง Watch Ultra ไม่มีพลาสติกหุ้ม แต่จะมีสติ๊กเกอร์ปิดที่ด้านหลังเหมือนกับ iPhone สามารถตรวจสอบว่าเป็นเครื่องใหม่จริงโดยสังเกตจากรอยฉีกขาดของสติ๊กเกอร์ และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเรือน Watch Ultra และสายชาร์จแบตเตอรี่ แต่ในคราวนี้สายชาร์จเป็นแบบสายถัก มีความแข็งแรงทนทานกว่าสายชาร์จแบบเดิมๆ เรียกได้ว่าทนทานยันสายชาร์จแบตเตอรี่เลยทีเดียว

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

ส่วนกล่องของสายนาฬิกาก็จะมีรุ่น และสีก็จะตรงกับที่ด้านหลังกล่อง ในเครื่องที่เราทดสอบได้สาย Ocean Band สีเหลืองที่ดูโดดเด่นมาก และทั้งหมดในกล่อง Watch Ultra ก็จะมีอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้

  • Apple Watch Ultra Titanium Case 49 mm
  • สาย Ocean Band สีเหลือง
  • สายชาร์จแบตเตอรี่
  • คู่มือการใช้งาน

Apple Watch Ultra

สำหรับสาย Ocean Band ที่มาให้ในชุดจะมีเพียงขนาดเดียว แต่สามารถใส่ได้ทั้งข้อมือผู้ชาย และผู้หญิง แต่หากข้อมือมีขนาดใหญ่อาจจะต้องเลือกซื้อเป็นสายแบบอื่นแทน สามารถไปลองสายได้ก่อนที่ Apple Store หรือร้านค้าที่มีให้ลองใช้

 

Apple Watch Ultra ที่สุดของสมาร์ทวอชระดับพรีเมี่ยม

ถึงแม้ว่า Apple Watch รุ่นปกติจะมีตัวเรือนทำจากวัสดุไทเทเนียมอยู่แล้ว แต่สำหรับ Watch Ultra ถือเป็นสมาร์ทวอชที่เปิดตัวมาทำตลาดสำหรับผู้ใช้สายลุยอย่างแท้จริง ตัวเรือนดีไซน์ใหม่หมด มีให้เลือกขนาดเดียวคือขนาด 49 มม. ตัวเรือนใช้วัสดุไทเทเนียมที่ครอบคลุมไปถึงขอบหน้าจอ มีคุณสมบัติที่แข็งแรง น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน ไม่หวั่นแม้ต้องเจอน้ำทะเล ส่วนกระจกหน้าจอก็ใช้วัสดุกระจกแซฟไฟร์ที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ทนต่อแรงขีดข่วน ด้านหลังใช้วัสดุเป็นเซรามิคที่มีความแข็งแรงทนทาน ด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่ว่ามาสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมกีฬา Extreme ได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า, ปีนเขา, ดำน้ำ, ไตรกีฬา ฯลฯ ก็ไม่ต้องกังวลเพราะตัวเรือนมีความสมบุกสมบัน แข็งแรง ทนทาน กันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร ไม่ว่ากิจกรรมไหนก็เอาอยู่

หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 49 มม. ใหญ่ที่สุดในตระกูล Apple Watch กระจกหน้าจอใช้วัสดุแซฟไฟร์ จอแสดงผลเป็นแบบ OLED ขนาด 1.92 นิ้ว ความละเอียด 502 x 410 พิกเซล ให้ความสว่างสูงสุดถึง 2000 nits ในขณะที่ Apple Watch รุ่นปกติจะมีความสว่างที่ 1000 nits รองรับการแสดงผล Always on Display ที่ใช้พลังงานต่ำ สามารถเปิดแสดงผลได้ตลอดเวลา เลือกปรับเปลี่ยนหน้าปัดได้ใน Faces Gallery บน iPhone และหากใช้หน้าปัดเวย์ไฟน์เดอร์ก็สามารถหมุน Digital Crown ปรับเปลี่ยนเป็นโหมดกลางคืน โดยการแสดงผลทั้งหมดจะเป็นสีแดง เหมาะกับการใช้ในตอนกลางคืน ทำให้แสงจากหน้าจอไม่สว่างจนเกินไป ไม่ทำร้ายดวงตาขณะใช้ในป่าตอนกลางคืน

ด้านข้างขวามี Digital Crown สำหรับหมุนเพื่อเลื่อนเมนูต่างๆ และยังทำหน้าที่เป็นปุ่มเมนู/โฮมได้เมื่อกดลงไป มีวงกลมสีส้มที่ดูโดดเด่นอยู่ที่ด้านข้างปุ่มนี้ด้วย ซึ่งส่วนนี้ยังเป็นเซ็นเซอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ ECG โดยการวางนิ้วแตะไว้ที่วงกลมนี้ ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่องโดยการกดค้าง พร้อมยังทำหน้าที่เป็นปุ่มฉุกเฉินโทรขอความช่วยเหลือ หรือเปิดเสียงไซเรนเป็นสัญญาณเสียงขอความช่วยเหลือได้อีกด้วย และที่ด้านข้างนี้ยังมีจุดเล็กๆ เป็นไมโครโฟน และเซ็นเซอร์วัดความลึกของน้ำซ่อนอยู่ด้วย

จุดที่ต่างกับ Apple Watch รุ่นธรรมดาคือที่ด้านข้างซ้ายมีปุ่มสีส้มขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นปุ่มลัดเข้าสู่เมนูการออกกำลังกายในโหมดต่างๆ พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นปุ่มฉุกเฉินเช่นเดียวกับปุ่มที่ด้านข้างขวา สามารถเปิดเสียงไซเรน หรือโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ด้วย ใกล้ๆ กันมีช่องลำโพงสำหรับสนทนา และเป็นลำโพงเสียงไซเรนที่ให้เสียงดังถึง 86 เดซิเบล สามารถดังไกลถึง 180 เมตรเพื่อขอความช่วยเหลือในระยะใกล้

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นวัสดุแบบเซรามิคเงางาม มีเซ็นเซอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับชีพจรแบบออฟติอล, เซ็นเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด (ไฟ LED สีแดง), เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิบนผิวหนัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปุ่มกดสำหรับถอดสายนาฬิกาทั้งด้านบน และด้านล่าง

สายนาฬิกาที่ได้มาทดสอบมีชื่อว่า Ocean Band สีเหลืองสดใส ใช้วัสดุเป็นยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์ที่มีความนุ่มนวล ไม่ระคายเคืองผิวหนัง น้ำหนักเบา ขอบของสาย Ocean Band มีลักษณะเป็นรูเล็กๆ สำหรับคล้องห่วงเก็บสาย รูที่ว่านี้ยังทำให้สายเป็นรูปคลื่นทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ช่วยให้ผิวหนังระบายเหงื่อ และระบายอากาศง่ายขึ้นกว่าสายแบบแบน จึงทำให้สวมใส่สบายไม่อึดอัด ส่วนตัวล็อคสาย และห่วงเก็บสายทำจากวัสดุไทเทเนียมด้วยเช่นกัน

Apple Watch Ultra

เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนง่ายดายเพียงแค่เปิดเครื่องวางใกล้ๆ กัน

ในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Apple Watch ทุกรุ่นจะใช้งานได้กับ iPhone เท่านั้น รวมไปถึง Watch Ultra ด้วย รองรับตั้งแต่ iPhone 8 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 16 ขึ้นไป ไม่สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟน Android ส่วนการเชื่อมต่อก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดนาฬิกาแล้วนำไปวางใกล้ๆ กับ iPhone ก็จะมี Pop up แจ้งเตือนเพื่อเชื่อมต่อ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนก็พร้อมใช้งานได้ทันที

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

สำหรับการตั้งค่าต่างๆ ของ Watch Ultra สามารถเข้าไปได้ที่แอพฯ Watch ใน iPhone ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหน้าปัดนาฬิกา Face Gallery, การแจ้งเตือนต่างๆ, การตั้งค่าปุ่มด้านข้าง, การตั้งค่าหมายเลขฉุกเฉิน, การอัพเดทซอฟท์แวร์ ฯลฯ รวมไปถึงการตั้งค่า Cellular หรือการตั้งค่า eSIM สามารถสมัครและใช้งานได้จากหน้าเมนูนี้ได้เลย

ที่สุดของสมาร์ทวอช เพื่อนคู่หูนักกีฬา และนักผจญภัยทุกรูปแบบ

Apple Watch Ultra ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นกีฬาในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงกีฬา Extreme และการผจญภัยทุกรูปแบบ หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีความสว่างได้สว่างถึง 2000 nits มองเห็นชัดเจนเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง ตัวเรือนมีความแข็งแกร่ง ทนทาน กันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร ผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งมาตรฐาน MIL-STD 810H ทนน้ำทนฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP6X ใช้งานได้ตั้งแต่อุณหภูมิหนาวติดลบถึง -20 องศาเซลเซียส และอากาศร้อนไปจนถึง 55 องศาเซลเซียส ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 36 ชั่วโมง รับสัญญาณ GPS ระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำถึง 2 ความถี่ มีระบบ Cellular เชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G สำหรับการโทรศัพท์ และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน eSIM โดยอิสระโดยไม่ต้องพก iPhone ไปด้วย

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

สำหรับโหมดการออกกำลังกายก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, โยคะ, การเต้น ฯลฯ โดยแต่ละรูปแบบสามารถกำหนดเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นตั้งเวลา, ระยะทาง, การเผาผลาญแคลอรี่ ส่วนการออกกำลังกายแบบหนักก็มีให้เลือกทั้งการปีนเขา, เซิร์ฟ, คิกบ๊อกซิ่ง, ไตรกีฬา, อัลตร้ามาราธอน ฯลฯ และยังมีโหมดดำน้ำลึกที่สามารถตรวจวัดความลึกได้สูงสุด 40 เมตร ผ่านการรับรอง EN13319 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลสำหรับอุปกรณ์เสริมในการดำน้ำ และปลายปีนี้จะมีแอพฯ Oceanic+ ที่จะทำให้ Watch Ultra เป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพฯ ได้ในช่วงปลายปีนี้

Apple Watch Ultra

Watch Ultra มีระบบ GPS แบบใหม่ 2 คลื่นความถี่ L1 และ L5 ที่มีความแม่นยำสูง ทำงานร่วมกับเข็มทิศดิจิตอลแบบใหม่ พร้อมข้อมูลความสูง อุณหภูมิ ความชื้น อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นบันทึกเส้นทางเดิน พร้อมทั้งช่วยบอกเส้นทางการเดินกลับได้ เหมาะกับการเดินป่า หรือเดินทางในเมืองที่มีเส้นทางซับซ้อนที่อาจจะหลงทางได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังมี Watch Ultra ช่วยนำทางกลับได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีลำโพงไซเรนที่ให้เสียงดังถึง 86 เดซิเบล สามารถได้ยินไกลถึง 180 เมตรเมื่อต้องการความช่วยเหลือเพียงแค่กดปุ่มด้านข้างค้างเอาไว้

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

เก็บข้อมูลพื้นฐานด้านสุขภาพ ความเคลื่อนไหวตลอดอย่างต่อเนื่อง และ 24 ชม.

ในด้านข้อมูลสุขภาพ Watch Ultra ก็ยังคงเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้เหมือนกับ Watch Series 8 ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการยืน, การเดิน, การเผาผลาญพลังงาน, การนอน, อัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด (Blood Oxygen), คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เป็นต้น สามารถเปิดดูข้อมูลแบบคร่าวๆ ได้จากบนหน้าจอสมาร์ทวอช หรือหากต้องการดูแบบละเอียดก็สามารถเปิดดูได้จากแอพฯ Health ก็ได้เช่นกัน มีข้อมูลต่างๆ ที่เก็บมาได้ที่จะบันทึกให้เราเลือกดูเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์ หรือเป็นรายปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถฟีเจอร์สำหรับคุณผู้หญิง โดยตรวจอุณหภูมิผิวหนังที่จะช่วยบอกระยะตกไข่ และช่วยบอกช่วงเวลาการมีประจำเดือนได้อีกด้วย

สรุปการใช้งาน Apple Watch Ultra จากความเห็นของ What Phone

การก้าวข้ามสมาร์ทวอชแบบเดิมของ Apple คราวนี้ถือเป็นการจับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย การผจญภัย และกีฬา Extreme ตอบโจทย์ด้วยเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ ครอบคลุมทั้งกีฬาบนบก และในน้ำอย่างครบถ้วน การใช้งานที่ยาวนาน แม้ว่าจะยังไม่เทียบเท่ากับอีกแบรนด์ที่ทำตลาดมาก่อน แต่การใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 36 ชั่วโมง หรือประมาณ 1.5 วันก็ถือว่านานพอสมควรแล้ว ซึ่งจากการใช้งานทั่วไปโดยเปิดฟังก์ชั่นทุกอย่างตลอด 24 ชั่วโมงสามารถใช้งานได้นานประมาณ 3.5 วัน ถือว่านานกว่า Apple Watch รุ่นก่อนที่ใช้งานได้ประมาณ 1.5-2 วัน ส่วนการใช้งานทั่วไปทำได้น่าประทับใจ ทั้งระบบติดตามสุขภาพ รายงานทุกการเคลื่อนไหวแม้กระทั่งนอนหลับ การใช้งานร่วมกับ iPhone 14 Pro Max ก็ทำได้ดีทั้งการแจ้งเตือน การโทรศัพท์ และฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 31,900 บาท อาจจะแพงไปสักหน่อย แต่เทียบกับความวัสดุระดับพรีเมี่ยม ฟังก์ชั่นการออกกำลังกายต่างๆ ดังที่กล่าวมา ก็ถือว่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

Apple Watch Ultra

สรุปสเป็ค

  • ชิพหน่วยประมวลผล SiP รุ่น S8 พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Dual‑core 64 บิต
  • หน่วยความจำภายใน 32 GB
  • ระบบปฏิบัติการ watchOS 9.1
  • รองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone 8 ขึ้นไป, ระบบปฏิบัติการ iOS 16 ขึ้นไป 
  • ขนาด 49 x 44 x 14.4 มม. น้ำหนัก 61.3 กรัม 
  • หน้าจอ LTPO OLED Retina ขนาด 49 มม. หรือ 1.92 นิ้ว ความละเอียด 410 x 502 พิกเซล
  • รองรับ eSIM ใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
  • เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 และ 802.11b/g/n 2.4GHz และ 5GHz
  • ภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS ย่าน L1 และ L5, GLONASS, Galileo, QZSS และ BeiDou
  • มาตรฐาน IPX6 กันฝุ่น กันน้ำลึก 100 เมตร
  • ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD 810H
  • แบตเตอรี่ 542 mAh ใช้งานต่อเนื่อง 36 ชั่วโมง, ใช้งานได้สูงสุด 60 ชั่วโมง 
  • ราคา 31,900 บาท

 

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save