Huawei FreeLace Pro หูฟังไร้สายสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายสปอร์ต หรือสายดูหนัง ฟังเพลง หูฟังรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ ทั้งในเรื่องของระยะเวลาการฟังเพลงที่ยาวนานต่อเนื่องสูงสุด 24 ชั่วโมง มีระบบตัดเสียงรบกวน การใช้งานที่ง่าย เชื่อมต่อได้รวดเร็ว ชาร์จแบตเตอรี่ได้สะดวกด้วยพอร์ตที่มีมาให้ในตัว มาดูกันว่าหูฟัง Huawei รุ่นนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง
แกะกล่องลองฟัง Huawei FreeLace Pro
- หูฟัง Huawei FreeLace Pro สี White Dawn
- อแดปเตอร์สายชาร์จแปลง USB-C เป็น USB-A
- Ear tips 3 ขนาด S, M และ L
- คู่มือการใช้งาน และหนังสือคู่มือการรับประกัน
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ดังกล่าว โดยตัวหูฟังที่เราได้มาทดสอบเป็นสี White dawn หรือสีขาวรุ่งอรุณ สีที่เราเห็นออกจะเป็นสีชมพูอ่อนๆ เหมือนกับท้องฟ้ายามเช้าที่แสงแดดแรกของวัน ส่วนสายชาร์จเป็นอแดปเตอร์แปลงจากพอร์ต USB-C เป็น USB-A สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบต ส่วน Ear tips มีมาให้ในกล่อง 3 ขนาดคือขนาดเล็ก ขนาดกลาง ซึ่งเป็น Ear tips ติดอยู่กับหูฟังอยู่แล้ว และ Ear tips ขนาดใหญ่ สามารถถอดเปลี่ยนได้ตามขนาดของหูผู้ใช้งาน
ลักษณะของหูฟังรุ่นนี้เป็นแบบสายคล้องคอ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่าน Bluetooth ที่ตัวหูฟังด้านนอกมีปุ่มสัมผัสเป็นโลหะมีขีดสีแดงกำกับอยู่ ส่วนหูฟังด้านในจะมีไมโครโฟน 2 ตัวสำหรับรับเสียง และตัดเสียงรบกวน มีไดร์ฟเวอร์ขับเสียงขนาด 14 มม.
ด้านนอกของหูฟังทั้งสองมีแม่เหล็กสำหรับประกบหูฟังทั้งสองเข้าด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการเก็บหูฟังให้เรียบร้อยแล้ว ยังมีเซ็นเซอร์ปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติ จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ และเมื่อดึงหูฟังทั้งสองออกมาก็จะทำการเปิดและเชื่อมต่อให้โดยอัตโนมัติ
ที่สายคล้องมีแผงปุ่มควบคุมการเล่นเพลงมาให้ 3 ปุ่ม นั่นก็คือปุ่มปรับลดเสียง เพิ่มเสียง และปุ่มเล่น/หยุดเพลงอยู่ตรงกลาง 3 ปุ่มนี้จะมีลักษณะนูนขึ้นมาเล็กน้อย สามารถใช้นิ้วแตะสัมผัสที่สัญลักษณ์นี้ก็จะรู้ทันทีว่าเป็นปุ่มอะไร ส่วนที่ด้านข้างมีปุ่มเปิดปิดเครื่อง และไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน ส่วนอีกด้านคือไมโครโฟนตัวที่ 3 สำหรับใช้สนทนาโทรศัพท์
นอกจากนี้ยังสามารถถอดสายหูฟังด้านขวาเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยตัวพอร์ตเป็นแบบ USB-C สามารถชาร์จผ่านพอร์ตของสมาร์ทโฟน หรือพอร์ตของคอมพิวเตอร์ หรืออแดปเตอร์ที่เป็นพอร์ต USB-C ได้หมด เมื่อใช้งานเสร็จก็เสียบสายใช้ฟังเพลงต่อได้ทันที
หรือหากไม่มีพอร์ต USB-C ก็สามารถใช้สายแปลงจาก USB-C เป็น USB-A ได้
ส่วนอีกด้านไม่มีปุ่มกดใดๆ เป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่
เชื่อมต่อง่ายๆ เพียงแค่เสียบเข้ากับสมาร์ทโฟน Huawei
สำหรับการจับคู่เชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ทโฟนก็มีระบบ Plug, Pair and Charge ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เสียบสายเข้ากับพอร์ต USB-C กับสมาร์ทโฟน Huawei หน้าจอก็จะขึ้น Pop-up สามารถกดเชื่อมต่อได้ทันที หรือหากเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็เพียงแค่กดปุ่มเปิดเครื่องค้างไว้จนไฟกระพริบ จากนั้นก็เปิดเมนู Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อได้เหมือนกับหูฟัง Bluetooth ทั่วไป นอกจากนี้หากแบตเตอรี่หมดก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
แอพฯ ที่ใช้ร่วมกับหูฟัง FreeLace Pro สามารถดาวน์โหลดแอพฯ AI Life ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดเฉพาะในระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น ส่วน iOS ก็สามารถใช้ฟังเพลงได้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับแอพฯ ก็ได้เช่นกัน สำหรับแอพฯ AI Life ก็สามารถใช้ปรับการตั้งค่าต่างๆ และใช้อัพเดท Firmware ของหูฟัง
ระบบตัดเสียงรบกวน Noise Active Canceling และระบบ Awareness
ที่หูฟังด้านซ้ายบริเวณแถบสีแดงเป็นปุ่มแบบสัมผัสสำหรับเปิดปิดระบบ Noise Active Canceling และระบบ Awareness ซึ่งการเปิดระบบทั้งสองนี้จะมีลักษณะวนเป็นลูป กล่าวคือแตะค้างที่ปุ่มนี้จะเปิดระบบ Noise Active Canceling แตะค้างอีกครั้งเพื่อเปิดระบบ Awareness และแตะค้างอีกครั้งเพื่อปิดระบบทั้งหมด
สำหรับระบบ Noise Active Canceling เป็นระบบตัดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับการใช้ในออฟฟิศ บนรถ หรือบนเครื่องบิน ซึ่งระบบจะทำการตัดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับตัดเสียงได้ทั้งหมด ส่วนระบบ Awareness เป็นระบบที่เหมาะกับการใช้งานขณะออกกำลังกาย Outdoor หรือเดินบนถนน ซึ่งจะช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้ชัดเจนขึ้น และยังช่วยให้เราระวังตัวจากเสียงรอบข้างต่างๆ ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซต์ หรือจักรยาน ถือว่าเป็นโหมดที่มีประโยชน์มากทีเดียว
สรุปการใช้งาน Huawei FreeLace pro จากความเห็นของ What Phone
จากการทดสอบใช้งานถือว่าเป็นหูฟังที่ให้เสียงครบทุกย่าน ทั้งเสียงเบส หรือเสียงต่ำ เสียงกลาง เสียงสูง เสียงทุกย่านมาแบบพอดีๆ ไม่มีย่านไหนดังเกินไป การสวมใส่ค่อนข้างสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด และไม่หลุดออกจากหูง่ายๆ สายคล้องคอหลายๆ คนอาจจะไม่ชอบ แต่ก็มีข้อดีคือสามารถถอดหูฟังมาประกบแล้วคล้องคอไว้ได้โดยไม่ต้องกลัวหล่นหาย เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบฟังเพลงไปด้วย ออกกำลังกายไปด้วย รับรองไม่มีหลุดอย่างแน่นอน สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,999 บาท ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าในเรื่องของคุณภาพเสียง กันละอองน้ำ กันเหงื่อมาตรฐาน IP55 ระบบตัดเสียงรบกวน ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชม. และความสะดวกสบายในการใช้งาน
สรุปสเป็ค Huawei FreeLace Pro
- ขนาดความยาวหูฟังทั้งหมด 862.4 มม. น้ำหนัก 34 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP55
- เทคโนโลยี Bluetooth 5.0
- มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Canceling และระบบ Awareness
- ขนาดไดร์ฟเวอร์ 14.2 มม.
- สั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่หูฟัง และปุ่มควบคุมการเล่นเพลงที่สาย
- แบตเตอรี่ 150 mAh ชาร์จประมาณ 60 นาที
- หูฟังใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง
- มี 3 สีให้เลือก สี Dawn white, Graphite black, Spruce green
- ราคาเปิดตัว 2,999 บาท
You must be logged in to post a comment.