หลังจากที่เป็นข่าวลือมานาน ในที่สุด Google ก็เปิดตัว Pixel Tablet ตัวจริงแล้ว โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือมันสามารถกลายร่างเป็น Smart Display ได้เมื่อวางลงบน Dock
ตัวแทบเล็ตจะวางจำหน่ายพร้อมกับ Dock ในราคารวม $499 ดอลลาร์สหรัฐ ตัวเครื่องมีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว (2560 x 1600 พิกเซล) สเปคนั้นใกล้เคียงกับ Pixel 7a คือมีชิปประมวลผล Google Tensor G2, RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB แต่ถ้าหากต้องการซื้อ Dock เพิ่ม จะมีราคาขายแยกอยู่ที่ $120 ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวางแทบเล็ตลงบน Dock ลำโพงจะหยุดทำงานและเสียงจะไปออกจาก Dock แทน และผู้ใช้งานสามารถทำ Google Cast ฉายภาพไปขึ้นบนแทบเล็ตได้ โดยจะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ไม่ใช่ Chromecast หรือ Android TV แต่ผู้ใช้งานสามารถทำการ Cast Video ไปยังหน้าจอได้ ด้วยการพ่วง Dock มาพร้อมกับแทบเล็ต ทำให้งานหลักของ Pixel Tablet นั้นแตกต่างจากแทบเล็ตรายอื่นๆ ในตลาด เพราะแทนที่จะทำให้มันกลายเป็นสมุดโน้ตเล่มใหญ่ที่มีปากกาเป็นอุปกรณ์เสริม Google กลับเลือกให้มันทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมสมาร์ทโฮมและสื่อความบันเทิงภายในบ้านแทน ในลักษณะเดียวกันกับ Nest Hub ที่เคยเปิดตัวก่อนหน้านี้
ยามที่ Pixel Tablet ไม่ได้ถูกใช้งานและวางเอาไว้บน Dock มันจะทำหน้าที่เป็นกรอบรูปดิจิตอล ที่สามารถเล่นวิดิโอ หรือเปิดเพลงได้ โดย Google โฆษณาว่าลำโพงเสียงดีมาก แต่ยังไม่มีสื่อรายใดได้ทดลองพิสูจน์ว่าเสียงดีจริงหรือไม่
ตัวเครื่องนั้นทาง Google ระบุว่ามีการชุบเคลือบพื้นผิวแบบ Nano-ceramic ให้ความรู้สึกเหมือนถือเครื่องปั้นดินเผาผิวเนียนๆ ลื่นๆ จะมีความรู้สึกแตกต่างไปจากแทบเล็ตอื่นๆ ที่เคยสัมผัสมา ข้างในเครื่องและแท่น Dock จะมีแม่เหล็กพลังสูง ทำให้สามารถวางแทบเล็ตบน Dock โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหล่นลงมา แต่ขณะเดียวกันการถอดแทบเล็ตออกจาก Dock ด้วยมือข้างเดียวก็ต้องใช้ความพยายามเอาสักหน่อย เนื่องจากตัว Dock น้ำหนักค่อนข้างน้อย ทำให้เป็นไปได้ว่าจะติดขึ้นมาด้วยกันแทนที่จะแยกออกเป็นสองส่วน
สำหรับชิปประมวลผลนั้น Pixel Tablet ใช้ Google Tensor G2 สเปคใกล้เคียงกับ Pixel 7a ที่เปิดตัวพร้อมๆ กัน รวมไปถึงฟีเจอร์ AI ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ข้อความด้วยเสียง การแต่งภาพ การลบภาพเบลอ ก็สามารถทำได้เหมือนกันหมด ส่วนแบตเตอรีนั้นทาง Google ระบุว่าสามารถใช้รับชมสตรีมมิ่งได้ต่อเนื่อง 12 ชั่วโมงติดกัน แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลหน่วย mAh ว่ามีความจุเท่าใด
ตัว Pixel Tablet มีกล้องสองตัว อยู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังอย่างละหนึ่งตัว และทั้งคู่เป็นเซนเซอร์ความละเอียด 8 Megapixel เหมือนกันทุกประการ ตัวเลนส์เป็น Fixed Focus และรูรับแสง f/2.0 ถ่ายวิดิโอได้ที่ Full HD 30FPS คือนอกจากเอาไว้ทำ Videocall แล้วกล้องทั้งสองก็ไม่เหมาะจะทำงานอื่นๆ เลย
เรื่องที่หลายๆ คนน่าจะกังวลก็คือ Android Tablet นั้นหายไปจากวงการจนแทบจะหาซื้อไม่ได้ (เหลือแค่ Samsung กับ Huawei ที่ทำขายมาตลอด) ทำให้แอพสำหรับใช้งานและดึงศักยภาพของ Tablet ได้นั้นมีน้อยมาก ทาง Google ก็ทราบถึงปัญหานี้ แต่ก็ทำได้แค่บอกว่าในปัจจุบัน Google ทำการปรับแต่งแอพของตัวเองราวๆ 50 แอพที่พร้อมใช้งานอย่างเต็มที่บน Tablet แล้ว ผู้ใช้งานสามารถเปิด Split screen แบ่งหน้าจอทำงานพร้อมๆ กันได้ แต่คำถามที่หลายๆ คนน่าจะอยากรู้ก็คือ App จากนักพัฒนาภายนอกจะต้องทำการปรับแต่งอีกมากแค่ไหนถึงจะทำงานได้ดีในระดับเดียวกัน
ตัวเครื่องจะมีให้เลือกสามสีด้วยกัน ได้แก่สีเทา สีชมพู และสีขาว ราคาเริ่มต้นความจุ 128GB อยู่ที่ $499 ดอลลาร์สหรัฐครับ
ที่มา – Engadget
You must be logged in to post a comment.