ส่งท้ายปีในเดือนธันวาคมด้วยการจัดอันดับสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดจากความเห็นของทีมงาน What Phone โดยที่ผ่านมาตลอดทั้งปีก็มีสมาร์ทโฟนออกมาหลายสิบรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Flagship ราคาหลายหมื่นบาทไปจนถึงสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นเพียงไม่กี่พันบาท แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่น และจุดด้อยแตกต่างกันออกไป โดยเราจะพิจารณาถึงประสิทธิภาพในด้านต่างๆ รวมไปถึงความคุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่ต้องจ่ายไป และในปีนี้สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุดก็คือ Xiaomi 13T Series สมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพความแรงในระดับ Flagship ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด มีกล้องถ่ายภาพที่นำเอาเทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Leica รวมถึงเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงในราคาเริ่มต้นเพียง 15,990 บาทก็ได้สมาร์ทโฟนที่มีกล้องระดับโปรที่ถ่ายภาพได้สวยงาม เก็บรายละเอียดสี และแสงได้ครบ มาดูกันว่าเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ทีมงาน What Phone ประทับใจรุ่นนี้มีอะไรบ้าง
Xiaomi 13T Series สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้สวยที่สุดของปีนี้
ที่สุดของสมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยของปีนี้ต้องยกให้ Series นี้เลย ไม่ว่าจะเป็น Xiaomi 13T หรือ 13T Pro ก็ให้ภาพความละเอียด สีสันของภาพคมชัดเหมือนกัน เพราะใช้เซ็นเซอร์และเทคโนโลยีการถ่ายภาพเหมือนกัน โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับเลนส์ Leica มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วย Leica Vibrant Look และ Leica Authentic Look ที่ทำให้วัตถุ หรือบุคคลดูโดดเด่น ซึ่งเป็นเหมือนลายเซ็นต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Leica
ภาพสวยๆ ที่ถ่ายได้จาก Xiaomi 13T Series มาจากชุด Hardware ที่มีประสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ภาพความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 100% ชุดเลนส์ที่ออกแบบร่วมกับ Leica มีความยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 24 มม. ซึ่งตัวเลนส์ประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ถึง 7 ชิ้น เคลือบ ALD กันแสงสะท้อนที่ป้องกันการเกิดแฟร์เมื่อถ่ายภาพแบบย้อนแสง ซึ่งจะสังเกตได้จากแฟร์ที่เกิดจากการถ่ายหลอดไฟหลายๆ ดวง นอกจากนี้ยังมีกล้องเลนส์เทเลโฟโต้ 50MP ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 50 มม. และกล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มม.
ตัวอย่างภาพจากกล้องในโหมด Portrait
เก็บรายละเอียดภาพได้ครบแม้ถ่ายยามค่ำคืน
ด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซลที่นำเอาเทคโนโลยีรวม 4 พิกเซลเป็น 1 พิกเซล ทำให้เก็บรายละเอียดแสง และสีสันได้อย่างครบถ้วน ประกอบกับระบบกันภาพสั่น OIS ที่เข้ามาช่วยในการป้องกันภาพเบลอจากการสั่นไหว จึงทำให้ภาพคมชัดเหมือนกับการใช้ขาตั้งกล้อง อีกทั้งยังเข้ามาช่วยไม่ให้ภาพสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโออีกด้วย
ตัวอย่างภาพจากกล้องในที่แสงน้อย
แรงระดับ Flagship ด้วยหน่วยประมวลผล Dimensity 9200+ กับคะแนน Antutu ทะลุ 1.4 ล้าน
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทีมงานเราประทับใจ นั่นก็คือความแรงในระดับสมาร์ทโฟน Flagship ในราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท โดยในรุ่น 13T Pro ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.35 GHz พ่วงด้วยชิปประมวลผลภาพ 3D Immortalis-G715 ส่วนรุ่น 13T ใช้ชิปประมวลผลที่รองลงมาอย่าง MediaTek Dimensity 8200 Ultra ความเร็วสูงสุด 3.1 GHz ชิปประมวลผลภาพ 3D Mali-G610 ทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Android เวอร์ชั่น 13
การทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลเราได้ทำการทดสอบด้วยแอปฯ Antutu เวอร์ชั่น 10.0.10 ซึ่งเป็นแอปฯ ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำ ผลการทดสอบของทั้ง 2 รุ่นต่างกันพอสมควร โดยในรุ่น 13T Pro สามารถทำคะแนนเทียบชั้นสมาร์ทโฟนระดับ Flagship ได้เลยที่ 1,451,159 คะแนน เลยทีเดียว ส่วนในรุ่น 13T ทำคะแนนได้ 891,757 คะแนน ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี สามารถใช้งานได้ครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป หรือการเล่นเกมที่มีกราฟฟิคหนักๆ ก็รองรับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ชาร์จเร็วสุดด้วย HyperCharge 120W
ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่นั้น ในรุ่น 13T Pro จะรองรับ HyperCharge ถึง 120 วัตต์ สามารถชาร์จเต็มได้ในเเวลาเพียง 24 นาทีเท่านั้น ส่วน 13T รองรับ TurboCharge 67 วัตต์ก็สามารถชาร์จได้เร็วโดยใช้เวลาเพียง 42 นาที ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ชาร์จได้เร็วสุดๆ ในเรทราคานี้
รุ่น ราคา และช่องทางที่วางจำหน่าย
Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black
-
- Xiaomi 13T Pro รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 19,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
- Xiaomi 13T Pro รุ่นความจุ 16GB+1TB วางจำหน่ายในราคา 23,990 บาท ที่ Xiaomi Store และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
-
- Xiaomi 13T รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
You must be logged in to post a comment.