• Facebook
• Twitter
• Line

Vivo Y50 การกลับมาของสมาร์ทโฟน Y Series ที่คราวนี้มาพร้อมกับการปรับปรุงทั้งด้านดีไซน์ และเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะการถ่ายภาพที่มาพร้อมกล้องหลังถึง 4 ตัว อัพเกรดสเป็คด้วยชิพเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิม 

แกะกล่องลองใช้ Vivo Y50

Vivo Y50 ที่เราได้มาทดสอบเป็นเครื่องใหม่แกะกล่องส่งตรงจาก Vivo หน้ากล่องสกรีนชัดเจนว่าเป็นรุ่น Y50 พร้อมติดระบุหน่วยความจำที่มุมกล่อง 8GB RAM, 128GB ROM ส่วนที่หลังกล่องก็มีระบุคุณสมบัติเด่นชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว Ultra O Screen, แบตเตอรี่ 5000 mAh, Super Wide-Angle Quad Camera, หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 เรียกได้ว่ามีจุดเด่นครบครันตามที่สมาร์ทโฟนในปี 2020 ที่ควรจะมี และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ที่ได้ดังนี้

• สมาร์ทโฟน Vivo Y50 สี Starry Black 
• สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
• อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 10 วัตต์
• เคสใสแบบ TPU
• คู่มือการใช้งานแบบรวดเร็ว และใบรับประกันสินค้า
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

สำหรับอุปกรณ์ในกล่องจะเห็นว่าขาดชุดหูฟังไป แต่เชื่อว่าผู้ใช้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงน่าจะมีชุดหูฟังส่วนตัวใช้งานอยู่แล้ว และในปัจจุบันชุดหูฟังบลูทูธก็กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน ดังนั้นหูฟังที่ติดกล่องมาให้อาจจะไม่จำเป็นเท่าใดนัก ส่วนสายชาร์จแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นแรกของ Vivo Y Series ที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ต และสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนที่ออกมาในปีนี้ สะดวกทั้งการเสียบสายชาร์จที่ไม่ต้องหันด้านให้ถูก เพราะสามารถเสียบได้ทุกด้าน

มาดูกันที่อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ของรุ่นนี้เป็นแบบ 5 โวลท์ 2 แอมป์ ให้กำลังไฟ 10 วัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มภายในเวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง แต่แบตเตอรี่ความจุขนาด 5,000 mAh ก็มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ สามารถใช้งานได้ข้ามวันอย่างแน่นอน ซึ่งหากชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอนก็ ตื่นเช้ามาแบตเตอรี่ก็เต็มพร้อมใช้งานทั้งวัน ไม่จำเป็นต้องพกพาวเวอร์แบงค์อีกต่อไป

และสำหรับเคสใสแบบ TPU เป็นแบบยืดหยุ่นได้ เมื่อใส่เข้ากับตัวเครื่องแล้วก็ไม่ได้ทำให้ความงามของตัวเครื่องน้อยลงแต่อย่างใด และยังช่วยปกป้องทั้งส่วนของฝาหลัง และชุดเลนส์กล้องทั้ง 4 เมื่อวางบนพื้นโต๊ะ ส่วนหน้าจอแสดงผลก็ไม่ต้องไปหาซื้อฟิล์มกันรอยให้วุ่นวาย เพราะมีฟิล์มคุณภาพดีติดมาให้จากโรงงาน เมื่อแกะกล่องออกมาก็พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม

Vivo Y50 การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

ตัวเครื่องเป็นสี Starry Black ที่ถึงแม้จะเป็นสีดำ แต่ฝาหลังของตัวเครื่องสะท้อนกับแสงในมุมต่างๆ ก็จะเผยให้เห็นสีที่ไล่ระดับ ดูมีมิติที่แตกต่างกันไป ขอบของตัวเครื่องออกแบบมาเป็น 3D Micro Arc โค้งมนรับกับอุ้งมือ ทำให้จับถือได้อย่างกระชับ ไม่มีขอบที่เป็นเหลี่ยมให้ระคายมือ อีกทั้งยังมีเส้นขอบที่ด้านข้างตัวเครื่องที่ช่วยไม่ลื่นหลุดมือ และหากใช้คู่กับเคสใสที่มีมาให้ในกล่องก็จะยิ่งช่วยให้ไม่ลื่นหลุดมือได้ง่ายๆ และนอกจากนี้ยังมีสี Iris Blue ให้เลือกอีกด้วย

จอแสดงผลของรุ่นนี้ยังเป็นรุ่นแรกที่เปลี่ยนจากจอภาพแบบหยดน้ำมาเป็นแบบเจาะรู หรือที่ทาง Vivo เรียกว่า Ultra O Screen ซึ่งเป็นที่อยู่ของกล้องหน้า กินพื้นที่น้อยกว่าจอภาพแบบหยดน้ำ อีกทั้งยังอยู่ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ไม่รบกวนสายตาขณะใช้งานเหมือนกับจอภาพรุ่นก่อนที่อยู่ตรงกลาง จอภาพมีความละเอียดระดับ FullHD+ หรือที่ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล มีขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่พอดีสำหรับการใช้งาน ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แสดงสีสันได้สดใส และยังมองเห็นได้อย่างคมชัดในแสงแดดจ้า

ด้านหลังอย่างที่ได้บอกไป กับสี Starry Black ที่ดูสุขุมนุ่มลึก เมื่อสะท้อนแสงจะเผยให้เห็นถึงเฉดสีต่างๆ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมในเวลาเดียวกัน เลนส์รับภาพของกล้องทั้ง 4 เลนส์อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม ประกอบไปด้วยเลนส์ที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพในระยะต่างๆ พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ใกล้ๆ กันยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ตรงกลางด้านหลัง 

ถาดใส่ซิมการ์ดของรุ่นนี้อยู่ที่ด้านข้างซ้าย เป็นแบบ 3 ช่อง สามารถใช้งานได้พร้อมกันไม่ว่าจะเป็น SIM1, SIM2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อย่างอิสระ ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มเปิดปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนของรุ่นนี้ปล่อยโล่ง ไม่มีอะไร ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ช่องไมโครโฟนเสียงสนทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และช่องลำโพงของตัวเครื่อง ให้เสียงที่ดังพอสมควร

เร็วแรง ด้วยชิพเซ็ต Qualcomm Snapdragon ยอดนิยม

เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าหน่วยประมวลผลที่มีความเสถียร แต่มีความแรง ประหยัดพลังงานอย่าง Qualcomm Snapdragon 665 Octa-Core ถือเป็นหน่วยประมวลผลระดับกลางที่มีความแรงกว่าชิพเซ็ตอื่นๆ รองรับการใช้งานทั่วไปและยังรองรับการเล่นเกม 3D ได้อีกด้วย สำหรับหน่วยความจำรุ่นนี้ก็มี RAM มาให้ถึง 8GB ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของแอพฯ ต่างๆ ราบลื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปิดแอพฯ พร้อมกันหลายๆ แอพฯ รวมไปถึงการเล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรในเครื่องค่อนข้างสูง ส่วนหน่วยความจำ ROM ก็มีมาให้ 128 GB เพียงพอสำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย คลิปวิดีโอ หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่นับวันจะใช้พื้นที่หน่วยความจำมากขึ้น แต่ถ้าหากยังไม่พอก็ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD ได้อีก

ในด้านการใช้งาน Vivo ก็ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ FunTouch 10 ซึ่งทำงานบน Android เวอร์ชั่น 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด มี UI หรือหน้าตาเมนูการใช้งานที่สวยงาม ลื่นไหล ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถปรับเปลี่ยน Theme ได้จากการดาวน์โหลดเพิ่มเติมในเมนู Theme และยังเลือกดาวน์โหลดและปรับเปลี่ยนฟ้อนท์ของเครื่องได้ มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียตังค์ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ

ด้วยความแรงของหน่วยประมวลผลของ Snapdragon 665 ที่มีถึง 8 แกนประมวลผล สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังรองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 แอพฯ ในหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นแอพฯ Facebook, YouTube, Chrome, Maps และแอพฯ อื่นๆ ที่รองรับ ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้จากไอคอนที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอที่ 2 ทำให้เราดูคลิปวิดีโอไปพร้อมๆ กับการใช้งานอื่นได้

สำหรับการทดสอบความเร็วด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ซึ่งเป็นแอพฯ ที่เราใช้ทดสอบความเร็วของสมาร์ทโฟนเป็นประจำ รุ่นนี้ก็สามารถทำคะแนนได้ 185026 ซึ่งถือว่าทำคะแนนได้ค่อนข้างดี เพียงพอสำหรับการเล่นเกมที่ใช้ภาพ 3D ระดับกลางๆ จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile และ Asphalt 9 ปรับความละเอียดเกือบสุดก็ทำได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ถือว่าผ่านในการทดสอบความแรงในราคาระดับนี้ 

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย Ultra Game Mode ทำงานร่วมกับระบบ Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยจัดการทรัพยาการในระบบ ไม่ว่าจะเป็นการปรับพื้นที่หน่วยความจำ หน่วยประมวลผลมาให้สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ อีกทั้งยังช่วยจัดการสายโทรเข้า และการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้มารบกวนหน้าจอขณะเล่นเกม ทำให้ผู้เล่นได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นเกม ปราศจากสิ่งรบกวน

กล้องหลัง 4 เลนส์พร้อมระบบ AI Super Camera

ถ้าเทียบกับราคา 7,999 บาทแล้ว ถือว่ารุ่นนี้ให้กล้องมาเยอะมาก ในราคาเพียงเท่านี้ก็ได้ถึง 4 เลนส์แล้ว ซึ่งแต่ละเลนส์ก็ให้ภาพในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระยะไหนก็สามารถเก็บภาพได้หมด โดยกล้องเลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2, กล้องเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2, เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายได้ระยะใกล้สุด 4 ซม. f/2.4 และเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังมีให้ใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพพาโนรามา, การถ่าย Slow motion, การถ่ายภาพ Time-lapse หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพแบบมืออาชีพที่สามารถปรับค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่า ISO, White Balance, Speed shutter และยังเลือกปรับระยะโฟกัสภาพได้อีกด้วย

ในการใช้เลนส์ระยะต่างๆ ก็มีให้เลือกถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ ซึ่งจะอาศัยเลนส์ Super Wide-Angle สามารถเก็บภาพได้มุมกว้าง 120 องศา แต่เพื่อความสวยงาม และไม่บิดเบี้ยวบริเวณขอบของภาพ รุ่นนี้จึงเก็บภาพที่มุมกว้าง 108 องศา เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่ต้องการมุมมองที่กว้างกว่าเลนส์ระยะปกติ หรือการถ่ายภาพในพื้นที่จำกัดอย่างการถ่ายภาพหมู่ก็สามารถเก็บภาพได้ครบโดยไม่ต้องถอยไปไกล และที่สาวๆ ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยเลนส์ Super Wide-Angle คือการทำให้ดูสูง ขาดูเรียวยาวโดยไม่ต้องแต่งภาพ กล้องถ่ายภาพอีกเลนส์คือการถ่ายภาพในระยะใกล้ ซึ่งสามารถถ่ายได้ใกล้ถึง 4 ซม. ทำให้เห็นภาพระยะใกล้ในมุมมองที่ไม่เคยเห็น

สำหรับการถ่ายภาพบุคคล Vivo ก็ทำได้โดดเด่นทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง โดยในกล้องหน้าจะมีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 เก็บแสงได้มากกว่า ทำให้หน้าสว่างใส สำหรับการปรับแต่งการถ่ายภาพ Portrait ก็มีให้เลือกปรับใบหน้าสวย โดยสามารถปรับได้ทั้งผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับรูปหน้า, ปรับขาว, ปรับรูปหน้า, กราม, ปรับตาโต, ปรับหน้าผาก จมูก ริมฝีปาก สามารถปรับได้จนกว่าจะพอใจ และอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าจะถูกใจสาวๆ ที่ชอบการถ่ายรูปก็มีโหมดท่าทางมาให้ โดยสามารถทำตามแบบในรูปได้ มีให้เลือกมากร้อยแบบ ทั้งถ่ายเซลฟี่คนเดียว ถ่ายกับเพื่อน ถ่ายกับคู่รักก็มีแบบให้เลือกมากมาย

การถ่ายคลิปวิดีโอก็ทำได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่กล้องหลัง หรือจะเลือกปรับความละเอียดลงได้ที่ FullHD 1080p หรือ 720p เลือกใช้เลนส์ Super Wide-Angle ถ่ายวิดีโอได้เหมาะกับการถ่ายในที่แคบๆ ซึ่งจะช่วยเก็บภาพได้หมด ส่วนการใช้กล้องหน้าจะถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p และยังสามารถเปิดโหมดใบหน้าสวยขณะถ่ายวิดีโอได้อีกด้วย

ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนาน

ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นถือว่ามีความจุสูงมาก แต่ก็ยังออกแบบมาให้ตัวเครื่องมีความบางเพียง 9.11 มม. เท่านั้น และเมื่อใช้งานร่วมกับหน่วยประมวลผลที่มีระบบจัดการพลังงานที่ดี ทำให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด นอกจากนี้พอร์ตชาร์จของ Y50 ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ตแบบ USB-C เป็นรุ่นแรกในตระกูล Y Series ซึ่งถือเป็นพอร์ตมาตรฐานในอนาคตที่นอกจากจะเสียบได้ทุกด้านแล้ว สาย USB-C ยังมีคุณสมบัติส่งผ่านข้อมูลด้วยความเร็วสูงเมื่อเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ ทำให้โอนถ่ายไฟล์งาน รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว สำหรับอแดปเตอร์ถึงแม้ว่าจะมีกำลังไฟ 10 วัตต์ แต่ก็สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากใช้งานปกติแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ก็เหลือเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งวันโดยไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ และก่อนเข้านอนก็เสียบชาร์จทิ้งไว้ รุ่งเช้าแบตเตอรี่ก็เต็มพร้อมใช้งานได้ทั้งวันทันที นอกจากนี้ยังมี โหมดสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ ซึ่งเป็นระบบประหยัดพลังงานเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย

บทสรุป Vivo Y50 จากความคิดเห็นของ What Phone

กล่าวได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงจาก Y Series รุ่นก่อนๆ มากพอสมควร ทั้งดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยม หรูหราเกินราคา หน้าจอใหญ่ แบตอึด ประสิทธิภาพการทำงานที่อัพเกรดหน่วยประมวลผลให้มีความเร็วเหนือกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อทำงานร่วมกับ Funtouch 10 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 เวอร์ชั่นใหม่ทั้งคู่ ใช้งานได้ลื่นไหล ประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะใช้งานเบาๆ หรือเล่นเกมหนักๆ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ยังใช้งานได้ดี ไม่มีอาการกระตุกให้เหนื่อยใจ จากสโลแกนของรุ่นที่ว่า เร็วแรงทะลุพิกัด ก็ดูจะไม่ผิดนัก ถึงแม้ว่าจะไม่แรงอย่างสมาร์ทโฟน Flagship แต่ด้วยราคา 7,999 บาทก็ถือว่าแรงทะลุพิกัดเหนือกว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็ว่าได้ ส่วนกล้องดิจิตอลทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังก็ยังไม่ทำให้เราผิดหวังเช่นเคย ถ่ายภาพได้คมชัดทุกระยะ จะเซลฟี่ หรือถ่ายภาพสาวๆ ด้วยโหมดการแต่งภาพต่างๆ ได้ถูกใจอย่างแน่นอน 

สรุปสเป็ค Vivo Y50

• ขนาด 162.04 × 76.46 × 9.11 มม. น้ำหนัก 197 กรัม
• หน้าจอแบบ Ultra O Screen ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
• ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง
• หน่วยประมวล Qualcomm Snapdragon 665 Octa-core
• ชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 610
• หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
• เพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
• กล้องหลัง 4 เลนส์
  • เลนส์ Wide ความละเอียด 13 MP
  • เลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 MP
  • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 MP
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 MP
• กล้องหน้าความละเอียด 16 MP
• ถ่ายวิดีโอความละเอียด FullHD, 4K
• ระบบชาร์จ กำลังไฟ 10 วัตต์
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
• Funtouch OS 10 บนระบบปฏิบัติการ Android 10
• มีให้เลือก 2 สี Starry Black, Iris Blue
• ราคา 7,999 บาท

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง

 

• Facebook
• Twitter
• Line