• Facebook
• Twitter
• Line

กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดสมาร์ทโฟนในใจหลายคนอย่าง Galaxy Note ซึ่งคราวนี้เปิดตัวเป็นรุ่นที่ 9 อย่าง Samsung Galaxy Note9 ที่พัฒนาร่วมกับปากกาสไตลัสคู่บุญอย่าง S PEN แต่ Note9 รุ่นนี้ เหนือกว่าความไม่ธรรมดาเดิมๆ เพราะ Galaxy Note9 และ S PEN จะหลุดจากหน้าที่เดิมๆ ที่คุณคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง

Galaxy Note9 มีขนาดตัวเครื่องที่ 161.9 x 76.4 x 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 201 กรัม เห็นตัวเลขแล้วอาจคิดว่ารุ่นนี้หนักแน่ๆ ซึ่งถ้าถามการใช้งานว่ารุ่นนี้มีน้ำหนักไหม ก็มี แต่ไม่ได้หนักเกินไปจนพกพาลำบาก ส่วนสัมผัสการจับถือนั้น จับได้ถนัดมือกว่า Galaxy Note8 เมื่อลองเปรียบเทียบกันดู แม้รุ่นนี้จะมีหน้ากว้างที่มากกว่า แต่กลับจับถนัดมือกว่า คาดว่ามาจากการออกแบบตัวเครื่องด้านหลังที่โค้งมนในองศาที่พอดี

พื้นที่มต้ขอบจอที่ลดลงจากเดิม และยังคงดีไซน์แบบไร้ปุ่มโฮม

กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F1.7 พร้อมเลนส์มุมกว้าง 25 มม. และยังมีเซ็นเซอร์สแกนใบหน้า ม่านตาและอื่นๆ ซ่อนอยู่

ปุ่มวอลลุ่มและปุ่ม Bixby ใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะเต็มรูปแบบ

และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB-C ช่องไมโครโฟน ลำโพง และช่องเก็บปากกา S PEN

เมื่อกดที่ปากกาปุ๊บ ปากกาก็จะเด้งออกมาให้เราดึงไปใช้งานทันที

และสิ่งที่แตกต่างตาก Galaxy Note8 อีกอย่างหนึ่งก็คือ กล้องคู่ตัวใหม่ที่ปรับรูรับแสงได้ 2 ขนาดตามสภาพแสง ไม่ว่าจะแสงมากแสงน้อยก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลย รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ย้ายตำแหน่งเพื่อให้ใช้งานสะดวกขึ้น

ช่องใส่ซิมการ์ดก็ยังเป็นสลอตไฮบริดเช่นเดิม

ปิดท้ายด้วยปากกา S PEN ที่คราวนี้สีที่เป็นจุดขายกลับเป็นตัวเครื่องสีน้ำเงินแต่สอดไส้ปากกาสีเหลืองสุดจี๊ดเสียนี่ ซึ่งเวอร์ชั่นวางจำหน่ายในไทยจะมีให้เลือก 3 สี ทั้งสีนี้ สีคอปเปอร์และสีดำสนิท

ดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่แตกต่าง

สัมผัสแรกเมื่อได้จับถือ Galaxy Note9 พบว่าแตกต่างจากรุ่น Note8  ในเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องทั้งจากวัสดุและแบตเตอรี่ความจุสูง ตัวเครื่องถูกออกแบบให้โค้งมน กระชับรับกับมือมากยิ่งขึ้น รวมถึงผิวสัมผัสและสีสันที่แตกต่าง เพิ่มพื้นที่หน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น และพื้นที่ขอบจอบางลง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัวเครื่องสีน้ำเงินโอเชียนบลูแบบเรียบหรูแต่ซ่อนความจี๊ดจ๊าดด้วยปากกาสีเหลือง

Infinity Display ที่ใหญ่ขึ้น เต็มตามากขึ้น

ถ้าหน้าจอแสดงผลไม่ขยายใหญ่ขึ้น ก็ดูเหมือน Galaxy Note9 ขาดอะไรไปสักอย่าง ซึ่งรุ่นนี้ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่รู้เลยว่า Infinity Display หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบถูกขยายใหญ่ขึ้นเป็น 6.4 นิ้ว จากเดิมที่ Galaxy Note8 มีขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว ส่วนฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติมนั้นก็ยังมี Multi Window การใช้งานสองแอพพร้อมกันร่วมกับ App Pair จับคู่แอพที่ใช้บ่อยพร้อมเปิดใช้งานได้เลย ส่วนใครที่ซีเรียสหรือเฉดสีหน้าจอหรือต้องการความสบายตาก็สามารถเลือกปรับเฉดสีให้จัดจ้านหรือสมจริงในเมนูการตั้งค่าได้

S PEN ที่ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ขีดเขียน

 

หาก Galaxy Note9 ไร้ซึ่งปากกา S PEN ก็คงจะไม่สมบูรณ์ แต่คราวนี้ซัมซุงเพิ่มความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการเสริมให้ S PEN เชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับตัวเครื่อง และทำหน้าที่เป็นรีโมตคอนโทรลฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสั่งการถ่ายภาพ เปิดหน้าจอ เล่น หยุด ข้ามเพลงและวิดีโอถัดไป หรือจะสั่งอัดเสียงในกรณีฉุกเฉินก็ทำได้ ซึ่ง S PEN รุ่นนี้สามารถตั้งคำสั่งลัดได้ 1 อย่างเมื่อกดปุ่มบนปากกาค้างไว้ โดยตัวปากกา S PEN รุ่นนี้เชื่อต่อบลูทูธเข้ากับตัวเครื่องในรัศมี 10 เมตร ฉะนั้นจึงสั่งการได้แม้จะอยู่ในระยะที่ไม่ใกล้นัก และไม่ต้องกลัวเลยว่าแบตเตอรี่จะหมด เพราะทุกครั้งที่เก็บปากกาเข้าเครื่อง คือการชาร์จแบตเตอรี่ให้ S PEN

ส่วนฟีเจอร์การเขียนร่วมกับ S PEN ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ตั้งแต่ Screen-Off Memo ที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่ดึงปากกาเมื่อหน้าจอปิดแล้วเขียนออกมาเป็นหมึกสีขาว แต่ใน Galaxy Note9 เปลี่ยนสีหมึกให้เป็นสีเดียวกับปากกานั้นๆ! ได้แล้ว ส่วนการใช้งาน Air Command หรือการจ่อปลายปากกาเหนือหน้าจอเพื่อเข้าสู่เมนูลัด ก็ยังมีการใช้งานยิบย่อยรออยู่ ทั้งการแปลภาษาผ่าน S PEN, เขียน Live Message เพื่อตกแต่งภาพและส่งต่อในแบบวิดีโอหรือ GIF ก็ได้ การครอปคลิปวิดีโอเพื่อสร้างภาพ GIF, การจับภาพหน้าจอ เขียนและส่งต่อได้ทันที ฯลฯ

2x Dual Camera with Recognization Scene

แม้ Galaxy Note9 จะยังใช้ฮาร์ดแวร์กล้องตัวเดียวกับ Galaxy S9+ นั่นก็คือ ความละเอียดภาพ 12 ล้านพิกเซลทั้งสองเลนส์ รูรับแสง F1.5 และ F2.4 ที่ปรับได้ คู่กับรูรับแสง f2.4 ในเลนส์ที่มาคู่กัน ซูมภาพได้ 2 เท่าแบบไม่เสียรายละเอียด แต่กล้องในรุ่นนี้มีความอัจฉริยะเข้ามาเพิ่ม อย่างเช่นระบบ AI ที่มาในชื่อว่า Recognization Scene ที่ทำงาน 2 แบบหลักๆ ทั้งการประมวลผลวัตถุ ตัวแบบ และสถานการณ์ที่อยู่ในกล้องเพื่อถ่ายทอดสีสัน ระยะความคมชัดที่แม่นยำที่สุด และยังช่วยปรับความคมชัดและเฉดสีในภาพให้ดูสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก

และสิ่งที่เข้ามาเพิ่มใน Galaxy Note9 เป็นรุ่นแรก ก็คือ Flaw Detect หรือระบบตรวจจับข้อบกพร่องในภาพที่ไม่ได้จำกัดแค่สิ่งกีดขวาง แม้แต่ภาพที่ถ่ายนั้นเบลอหรือมีสิ่งสกปรกติดที่หน้าเลนส์ ระบบ Flaw Detect ก็ยังช่วยแจ้งเตือนให้ถ่ายภาพใหม่ หรือใครที่ติดใจ AR Emoji ใน Galaxy S9 และ S9+ ใน Note9 ก็มีมาด้วยนะ แถมยังแต่งภาพในรูปแบบ Live Message ได้อีกต่างหาก

ส่วนลูกเล่นถ่ายภาพอื่นๆ ขึ้นชื่อไม่ว่าจะเป็น Live Focus ถ่ายภาพหน้าชัด หลังละลายได้สวย, โหมดถ่ายภาพโปรที่สมาร์ทขึ้นด้วยการปรับรูรับแสงในตัวได้ ส่วนสายเซลฟี่แม้จะมีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.7 แต่ก็มีการปรับแต่งแบบจัดหนัก! จะเซลฟี่ฉากหลังละลายก็ได้หรือแต่งหน้าให้สวยกระจ่างใสก็มี หรือจะเพิ่ม AR Sticker แบบแบ๊วๆ น่ารักหรือแบบฮาๆ เกรียนๆ ก็ได้หมด และที่ขาดไม่ได้กับการถ่ายวิดีโอ Super Slow-mo 960p

ถ้าคุณต้องการภาพถ่ายที่ไว้ใจได้ ใช้งานอื่นๆ ได้จริงจาก Samsung Galaxy Note9 ขอบอกเลยว่าไม่ผิดหวังไม่ว่าจะในสถานการณ์กลางแจ้งหรือในที่แสงน้อย ทั้งภาพที่สด คม สีสันเน้นในเรื่องความสมจริง ส่วนการถ่ายภาพกลางคืนก็สะดวกด้วยรูรับแสงปรับค่าได้ทั้งแบบอัตโนมัติหรือแมนนวล ถ่ายภาพหน้าชัด หลังละลายก็สวน ระบบโฟกัสทำงานรวดเร็วดี หรือจะเซลฟี่ก็สวยธรรมชาติไม่แพ้ใคร

Fingerprint & Face Unlock & Iris Scanner

ในเมื่อระบบรักษาความปลอดภัยในสมาร์ทโฟนเรือธงจากซัมซุงจัดหนักอยู่แล้ว Galaxy Note9 จึงยังคงระบบส่วนนี้ไว้แบบเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการแสกนลายนิ้วมือบนเซ็นเซอร์ด้านหลังตัวเครื่องที่เปลี่ยนตำแหน่งให้ใช้งานถนัดขึ้นกว่าเดิม การสแกนใบหน้าและม่านตาซึ่งเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือเลือกใช้งานการสแกนอัจฉริยะ เปิดทั้งสองฟีเจอร์พร้อมกันก็ได้ เพื่อความรวดเร็วในการสแกนที่รวดเร็วที่สุด

ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ทั้งแปลภาษา นำทางหาสถานที่ และช้อปปิ้งไปกับคุณ

ถ้ามาในฐานะเรือธง Galaxy Note9 ก็คงจะขาด Bixby อย่างเต็มรูปแบบไปไม่ได้ ซึ่งมีให้ใช้ทั้ง Bixby Voice สั่งงานผู้ช่วยอัจฉริยะด้วยคำสั่งเสียง รองรับภาษาอังกฤษ จีนและเกาหลี หรือจะเป็น Bixby Vision เปิดกล้อง ถ่ายรูปแล้วรู้ทันที ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างแม่นยำใช้ได้เลยล่ะ น่าจะเหมาะกับสาวๆ ขาช้อปที่เห็นสินค้าถูกใจแล้วตาลุกวาว ต้องเช็คราคากันสักหน่อย หรือใครที่เป็นสายเดินทาง ก็สามารถเปิดกล้องเพื่อค้นหาสถานที่ใกล้ตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าได้ด้วยนะ ส่วน Bixby Home และ Reminder ก็ทำหน้าที่มิได้ขาด ทั้งการรวมแอพพลิเคชั่นที่ใช้บ่อยไว้ในหน้าเดียว รวมถึงการแจ้งเตือนกิจกรรมต่างๆ ของคุณ

Performance

ชุดประมวลผลภายในของ Samsung Galaxy Note9 อาจเด่นไม่เท่าเจ้าปากกา S PEN หรือกล้องคู่ แต่นี่เป็นหัวใจสำคัญของการใช้งานเลยล่ะ ตั้งแต่ชิปเซ็ตตัวใหม่ที่ซัมซุงยังเลือกใช้ Exynos 9810 Octa-core 2.7 GHz ใครที่รอคอยเจ้ามังกร Snapdragon อาจต้องใช้บริการร้านรับหิ้วแทน, ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์โอรีโอ 8.1 ส่วน RAM และพื้นที่ในเครื่องมีให้เลือกสองเวอร์ชั่น ทั้ง 6/128GB และ 8/512GB! ที่สบายใจได้เลยในเรื่องของพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่เยอะเป็นพิเศษ หรือถ้าใครต้องการเพิ่มเติมก็อย่าลืมว่า Note9 เพิ่มไมโครเอสดีได้สูงสุดถึง 400GB เลยทีเดียว

Others

ความน่าสนใจใน Galaxy Note9 ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่อัพเกรดประสิทธิภาพระดับสูง ทั้งแบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 มิลลิแอมป์ที่ใช้งานได้จริง, การใช้งาน 2 ซิมการ์ดที่ยังใช้สลอตไฮบริดอีกเช่นเคย, ลำโพงสเตอริโอที่ปรับจูนเสียงโดย AKG หรือใครที่เป็นสายหูฟัง รุ่นนี้ก็ยังมีหูฟังจาก AKG แถมมาใหในกล่อง, การจ่ายเงินผ่าน Samsung Pay อันแสนสะดวก ฯลฯ

สรุปและความเห็นจากวอทโฟน

หากมองแต่เพียงดีไซน์ภายนอก Samsung Galaxy Note9 อาจเป็นอะไรที่ดูเปลี่ยนแปลงไปไม่มากเท่าไรเมื่อเทียบกับ Note8 (ยกเว้นสีสันเฉดใหม่และปากกาสีเหลืองเด่นชัดสะใจ) แต่ในเรื่องของฟีเจอร์ภายใน เรียกได้ว่าอัพเกรดถึงขีดสุด พัฒนาในส่วนของ S PEN ให้เป็นมากกว่าปากกาสไตลัสที่ใช้ขีดเขียนธรรมดา แม้คุณจะไม่ต้องพึ่งพาปากกาเพื่อการจดโน้ต แต่ S PEN ก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ แต่ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องฟีเจอร์แบบจัดหนักทั้งหลาย Galaxy Note9 ก็ยังมีจุดขายหลักที่โดนใจลูกค้าส่วนใหญ่ ทั้งหน้าจอใหญ่เต็มตา แบตเตอรี่อึดถึกใช้ได้นาน กล้องคู่ที่ถ่ายภาพได้สวยสมจริง และปากกา S PEN ที่ช่วยเต็มเติมการใช้งานให้สมบูรณ์แบบ

จุดเด่น

• ปากกา S PEN พร้อมรีโมตบลูทูธในตัว สั่งงานได้ในรัศมี 10 เมตร
• หน้าจอ Super AMOLED 4 นิ้ว อัตราส่วน 18.5:9 ความละเอียด 1440 x 2860 พิกเซล
• ชิปเซ็ต Exynos 9810 Octa-core 2.7GHz
• RAM 6/8GB และ ROM 128/512GB / เพิ่มไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 400GB
• ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 1 (โอรีโอ)
• กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซลทั้งสองเลนส์
• รูรับแสง 5 และ F2.4 ปรับความกว้างได้ในเลนส์เดียว
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 7
• รองรับการสแกนอัจฉริยะ ใช้งานได้ทั้งม่านตาและใบหน้า
• แบตเตอรี่ความจสูง 4,000 มิลลิแอมป์
• ลำโพงสเตอริโอและระบบเสียงปรับจูนโดย AKG
• มี Bixby เต็มรูปแบบ (Voice, Vision, Home, Reminder)
• รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot

Specification

ขนาด, น้ำหนัก	161.9 x 76.4 x 8.8 มม., 201 กรัม
SIM Card	Nano SIM+Nano SIM (Hybrid Slot)
แบตเตอรี่	Li-ion 4,000 mAh

เครือข่าย

เครือข่าย 2G	850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
เครือข่าย 3G	850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100 MHz
เครือข่าย 4G	700 / 800 / 850 / 900 / 1700/2100 / 1800 / 1900 / 2100 / 2300 / 2500 / 2600 MHz

หน่วยความจำ

หน่วยความจำภายใน	128/256GB / RAM 6/8GB
หน่วยความจำภายนอก	microSD สูงสุด 400GB

จอแสดงผล

ขนาด	6.4 นิ้ว
ความละเอียดและความหนาแน่น	1440 x 2960 พิกเซล (516 ppi)
ชนิดและจำนวนสี	Super AMOLED 16 ล้านสี / อัตราส่วน 18.5:9 / Always-On Display

ระบบ

หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)	Exynos 9810 Octa-core 2.7 GHz
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)	Mali-G72 MP18
ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ	Android 8.1 (Oreo)

การเชื่อมต่อ

Wi-Fi	802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Hotspot, Wi-Fi Direct
Bluetooth	รองรับ (v.5.0, A2DP, LE, aptX)
NFC	รองรับ
USB	USB Type-C 3.1
ระบบระบุตำแหน่ง (GPS)	รองรับ (A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO)

มัลติมีเดีย

กล้องถ่ายภาพนิ่ง
ความละเอียด	12+12 ล้านพิกเซล / 8 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ	รูรับแสง F1.5 และ F2.4 ปรับรูรับแสงได้ / โหมดถ่ายภาพแบบโปร / Live Focus / AR Emoji / Flaw Detect
กล้องวิดีโอ
ความละเอียด	3840 x 2160 (UHD 4k) / 1440 x 2560 (QHD)
คุณสมบัติ	เลือกขนาดไฟล์วิดีโอ / Hyperlapse / Super Slow-Mo
วิทยุ	ไม่มี
อื่นๆ	รองรับการสแกนลายนิ้วมือ ใบหน้าและม่านตา / ลำโพงสเตอริโอโดย AKG / Samsung Pay

 

ราคา 33,900 บาท (128GB/RAM 6GB)

• Facebook
• Twitter
• Line