• Facebook
• Twitter
• Line

แกะกล่อง รีวิว Samsung Galaxy Note 10

รีวิว Samsung Galaxy Note 10 ที่เราได้มาทดสอบคราวนี้เป็นสี Aura Pink มาในกล่องดำสนิทแต่จะมีรูปสีของปากกาบ่งบอกอยู่ด้านหน้าอย่างเด่นชัดว่าข้างในเป็นเครื่องสีอะไร โดยสี Aura Pink จะได้ปากกา S Pen เป็นสีชมพูสีเดียวกับตัวเครื่อง ซึ่งหากเป็นสีอื่น ปากกาก็จะเป็นสีตามเครื่องด้วย (คลิกชมสีอื่นๆ ได้จากพรีวิวนี้) ส่วนที่หลังกล่องก็จะบอกคุณสมบัติเด่นๆ ของรุ่นนี้

เมื่อแกะกล่องมารูปแบบการจัดวางอุปกรณ์จะเหมือนๆ กับรุ่นใหม่ๆ ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้  ภายในกล่องก็มีอุปกรณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

• Samsung Galaxy Note10 สี Aura Pink
• อแดปเตอร์ Super Fast charging แบบ USB-C กำลังไฟ 25 วัตต์
• สายชาร์จแบบ USB-C ทั้งสองด้าน
• ชุดหูฟัง AKG แบบ USB-C
• เคส TPU แบบใส
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
• คีมคีบหัวปากกา S Pen และหัวปากกาสำรอง 2 หัว
• คู่มือการใช้งานแบบด่วน

อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 25 วัตต์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รุ่นแรกที่นำมาใช้ เพราะมี  A Series อย่าง A70 และ A80 ใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ Note10 รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่รองรับอแดปเตอร์ 45W ซึ่งจะกล่าวในหัวข้อถัดไป ส่วนสายชาร์จก็เป็นแบบ USB-C ทั้งสองด้าน สลับด้าน กลับหัวก็ยังคงเสียบชาร์จได้ไม่ต้องกังวลว่าจะผิดด้าน

ชุดหูฟัง AKG มาในรูปแบบของพอร์ต USB-C มีข้อดีตรงที่ระบบเสียงในรูปแบบดิจิตอลจะไม่มีความสูญเสียสัญญาณเลยจนกว่าจะถึงตัวหูฟังจึงจะเปลี่ยนเป็นอนาล็อค ทำให้เสียงชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน แต่หากมีชุดหูฟัง 3.5 มม. อยู่แล้วอาจจะต้องซื้ออแดปเตอร์เพิ่ม เพราะในกล่องไม่ได้มีมาให้

ในรุ่นนี้มีหัวปากกาสำรองมาให้เพียง 2 หัวเท่านั้น ซึ่งจากรุ่นก่อนๆ มีมาให้มากกว่านี้ โดยหัวสีดำจะมีความหนืด เมื่อเขียนลงบนหน้าจอจะให้ความรู้สึกเหมือนกับการเขียนหนังสือจริงๆ ส่วนหัวสีเทาจะค่อนข้างลื่น เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ชอบความหนืดแบบหัวสีดำ

มาดูกันที่ตัวเครื่องกันบ้าง หน้าจอแสดงผลของ Galaxy Note10 มีขนาด 6.3 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ Dynamic AMOLED ความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผล HDR10  กล้องหน้าถูกฝังไว้บนหน้าจอเป็นวงกลมที่ Samsung เรียกว่า Cinematic Infinity-O Display อาจจะดูขัดใจนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าดีกว่า Galaxy S10+ ที่มีรูใหญ่กว่า เชื่อว่าหากใช้ไปสักพักก็จะเริ่มชินเอง 

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ถูกฝังอยู่ใต้จอแสดงผล แต่มีตำแหน่งสูงขึ้นมาจากรุ่นก่อนๆ นิดหน่อยเพื่อให้สแกนได้ง่ายขึ้น 

ด้านหลังใช้วัสดุเป็นกระจก Gorilla glass 6 เลนส์กล้องถ่ายภาพทั้ง 3 เลนส์เรียงตัวกันเป็นแนวตั้งอยู่ในกรอบ ไม่มีเซ็นเซอร์ DepthVision และไฟแฟลชแบบ LED อยู่ด้านนอก สำหรับด้านหลังของสี Aura Pink เป็นโทนสีชมพูสีเดียว แต่หากส่องกับแสงไฟแล้วจะเห็นแสงตกกระทบสีชมพูในเฉดต่างๆ และยิ่งส่องกับแสงสว่างมากๆ ก็จะยิ่งดูออกสีชมพูอ่อนสวยงามมาก น่าจะถูกใจสาวๆ ล่ะงานนี้

ปุ่มปรับระดับเสียงของรุ่นนี้อยู่ที่ด้านข้างซ้าย ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิดเครื่องซึ่งปกติแล้วจะอยู่ด้านขวา โดยปุ่มนี้ทำหน้าที่เป็นปุ่มเปิด/ปิดหน้าจอ และเป็นปุ่ม Bixby ในตัวโดยการกดปุ่มค้าง แต่หากต้องการปิดเครื่องจะไม่สามารถใช้ปุ่มนี้ได้ จะต้องปิดเครื่องที่แถบ Notifications ส่วนที่ด้านข้างขวาไม่มีปุ่มใดๆ เลย

ด้านบนมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด ตัวถาดใส่ซิมการ์ดได้ 2 ใบ ไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ข้างๆ กันเป็นรูลำโพงที่ให้เสียงแบบสเตอริโอโดยทำงานคู่กับลำโพงด้านล่าง ถัดไปอีกก็จะเป็นไมโครโฟนรับเสียง ส่วนที่ด้านล่างมีช่องไมโครโฟน ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C สำหรับเสียบสายชาร์จ และชุดหูฟัง ถัดไปเป็นช่องลำโพง และท่ีด้านขวาสุดเป็นช่องเสียบปากกา S PEN

ตัวปากกา S Pen เป็นแท่งสีชมพูสีเดียวกับตัวเครื่อง หัวปากกามีหัวสำหรับถอดเปลี่ยนได้ ส่วนปลายปากกาเป็นปุ่มกดสปริง เมื่อกดลงไปแล้วจะเด้งออกมา ทำให้เราสามารถถึงปากกาออกไปใช้ได้ง่ายขึ้น

ปากกา S Pen ที่ฉลาดขึ้น ทำอะไรได้มากกว่าเดิม

ขึ้นชื่อว่าปากกา S Pen หลายๆ คนคงจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว และเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะมันใช้ขีดเขียน จดบันทึก วาดรูป แต่ใน Note9 รุ่นก่อนนั้นเริ่มจะมีฟีเจอร์เด่นๆ เพิ่มเข้ามาอย่างเช่นการเชื่อมต่อบลูทูธที่สามารถใช้เป็นรีโมทชัตเตอร์ แต่ใน Note10 นี้ยังเพิ่ม Gyroscope sensor และเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ช่วยให้เราออกท่าทางต่างๆ ในการสั่งงานได้มากขึ้น รวมเข้ามาไว้อยู่ในปากกาแท่งเดียว

ยกตัวอย่างการใช้งานตวัดปากกาเพื่อเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพซ้าย-ขวา, ตวัดหมุนวนซ้าย-ขวาเพื่อซูมเข้า ซูมออก, ตวัดขึ้น-ลงเพื่อสลับกล้องหน้ากล้องหลัง ทำให้ใช้งานสะดวกเมื่อต้องการตั้งกล้องถ่าย อีกทั้งยังคงใช้ปุ่มกดบน S Pen เป็นรีโมทชัตเตอร์ได้เช่นเดิม

ในด้านการใช้ปากกา S Pen จดบันทึกต่างๆ ก็มีฟังก์ชั่นแปลงลายมือเป็นตัวพิมพ์ก็สามารถทำได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ไม่เพียงเท่านี้ ยังแปลงได้เป็นประโยคยาวๆ ได้อีกด้วย จากการทดสอบเขียนด้วยลายมือหวัดๆ ไม่สวยมากนักก็สามารถแปลงได้ค่อนข้างแม่นยำ สะดวกเมื่อต้องรีบจดบันทึกแล้วนำไปใช้งานจริงๆ ไม่ต้องมานั่งพิมพ์ข้อความใหม่

สำหรับการใช้งานอื่นๆ ก็ยังคงทำได้เช่นเดิม แต่ก็ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น อย่างเช่น Screen off memo จากที่เคยจดบันทึกด้วยสีปากกาตามสีตามรุ่นใน Note9 แต่คราวนี้สามารถเลือกสีของปากกาได้เองแล้ว โดยมีสีให้เลือกจดบันทึก 5 สี นอกจากนี้ยังมีเสียงการขีดเขียนที่บันทึกมาจากเสียงจริงของปากกาแต่ละแบบ ให้อารมณ์เหมือนกับการใช้ปากกาของจริงด้วย 

ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้คุณสมบัติของ S Pen ที่สามารถออกคำสั่งโดยการตวัดในท่าต่างๆ ต่อไปเราอาจจะได้ใช้ปากกา S Pen แทนไม้เทนนิส หรืออาจจะมีเกมพ่อมดตวัดปากกา S Pen เป็นไม้กายสิทธิ์ก็เป็นได้

Tripple Camera ที่ผสานการทำงานร่วมกับ S Pen สร้างสรรค์ผลงานได้เจ๋งกว่าเดิม

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าปากกา S Pen นั้นสามารถใช้เป็นรีโมทสั่งการทำงานต่างๆ เช่นเป็นชัตเตอร์ ตวัดเพื่อปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานของกล้อง ยังมีฟีเจอร์เด็ดที่เพิ่มเข้ามาใน Galaxy Note10 นี้คือ AR Doodle โดยเราสามารถวาดเขียน หรือใส่ข้อความต่างๆ บนใบหน้าคน หรือสิ่งของต่างๆ ได้ เมื่อแพนกล้องไปยังมุมต่างๆ หรือใบหน้าเคลื่อนที่ ทุกอย่างที่ขีดเขียนลงไปจะเคลื่อนที่ไปตามใบหน้า หรือวัตถุเหล่านั้น และสามารถบันทึกเป็นวิดีโอเก็บไว้ได้ด้วย ช่วยให้สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ให้ดูแปลกตา ไม่เหมือนใคร แต่จากการทดสอบพบว่ากาเคลื่อนที่ของสิ่งที่ขีดเขียนลงไปอาจจะยังเคลื่อนที่ไม่สมูทเท่ากับ Note10+ เพราะรุ่นนี้ไม่มีเซ็นเซอร์ Depth Vision ที่ช่วยตรวจจับระยะของวัตถุ แต่ก็สามารถเล่นได้สนุกไม่แพ้กัน

สำหรับการถ่ายวิดีโอก็ถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชั่น Zoom-in Mic ที่ช่วยขยายเสียงจากภาพที่ซูมเข้าไป ซึ่งเป็นผลมาจากไมโครโฟนตัวที่ 3 ที่เพิ่มเข้ามา ช่วยบันทึกต้นเสียงให้ชัดเจนขึ้น โดยไมโครโฟนซ้าย-ขวาจะถูกเบาเสียงลง แล้วใช้ไมโครโฟนตัวที่ 3 ที่อยู่ตรงกลางขยายเสียงขึ้น ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในโหมดการถ่ายวิดีโอยังเพิ่มโหมด Live focus video มาให้ด้วย ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ช่วยละลายฉากหลังที่ไม่ต้องการให้เบลอได้ ส่งผลให้ภาพบุคคลที่อยู่ตรงหน้านั้นดูโดดเด่นขึ้นมาเลยทีเดียว โดยสามารถเลือกเบลอฉากหลังได้ 4 แบบเช่นเดียวกับการถ่าย Live focus ภาพนิ่ง

ในด้านการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังทำได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K, 60 เฟรมต่อวินาที มีโหมด Super Steady ที่ช่วยป้องกันภาพสั่นโดยทำงานร่วมกันทั้ง Hardware และ Software แต่จะถูกปรับลดความละเอียดลงมาเหลือ FHD 1080p ส่วนกล้องหน้าก็สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ได้เช่นกัน แต่เฟรมเราจะเหลือเพียง 30 เฟรมต่อวินาที

ส่วนการถ่ายภาพในโหมดต่างๆ ของรุ่นนี้ก็ยังคงมีมาให้ครบถ้วนเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น Night, AR Emoji, Super slow motion, Hyperlapse 

สรุปสเป็คกล้องของ Samsung Galaxy Note10

• กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.5-2.4
• กล้อง Ultrawide กว้าง 123 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.1
• กล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.2
• ไฟแฟลชแบบ LED
• กล้องหลังถ่ายวิดีโอความละเอียด UHD 4K, 60 เฟรมต่อวินาที
• กล้องหน้าถ่ายวิดีโอความละเอียด UHD 4K, 30 เฟรมต่อวินาที

เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แบบไร้รอยต่อด้วย Samsung DEX ได้ทั้ง Windows และ MAC

พัฒนาการของฟังก์ชั่น Samsung DEX นั้นทำออกมาได้ดีกว่าเดิม และง่ายกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนต้องอาศัยแท่นเพื่อเสียบกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้องหาเม้าส์ คีย์บอร์ดมาใช้งานต่างหาก มาถึงเวอร์ชั่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ PC และ Notebook รวมไปถึง Mac ได้เลยทันที เพียงแค่ใช้สาย USB เพียงเส้นเดียว ใช้งานคีย์บอร์ด เม้าส์ร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ด้วย

การใช้งานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้งานแอพฯ ต่างๆ ที่อยู่บน Note10 ได้ทันทีเหมือนกับขยายหน้าจอมือถือมาไว้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สะดวกทั้งการทำงาน พิมพ์ข้อความแชท รวมถึงการโอนถ่ายไฟล์รูปภาพ ไฟล์เอกสารต่างๆ ได้ง่ายๆ เพียงแค่ลากไอคอนข้ามหน้าต่างเท่านั้นเอง สะดวกและรวดเร็วมากๆ และนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Links to Windows ที่สามารถโอนถ่ายไฟล์ต่างๆ อย่างเช่นรูปภาพ ไฟล์เอกสารได้โดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในเครือข่ายเน็ตเวิร์คเดียวกัน

ดาวน์โหลด Samsung DEX เพื่อใช้งานบน Windows และ Mac ได้ที่นี่

Super Fast Charging พร้อมระบบจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยม

เป็นครั้งแรกที่ตระกูล Note ได้ฟีเจอร์การชาร์จแบบ Super Fast Charging 25 วัตต์ จากที่ Galaxy A Series ได้ใช้ก่อน ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จได้รวดเร็วขึ้น โดยตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 3,500 mAh ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบ Wireless Fast Charging หรือชาร์จแบบไร้สายได้เร็วขึ้นอีกกับอุปกรณ์ที่รองรับ

นอกจากนี้ยังสามารถแชร์แบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วยเช่น ชาร์จสมาร์ทวอชอย่าง Samsung Galaxy Watch หรือชุดหูฟังไร้สายอย่าง Samsung Galaxy Buds หรือแม้กระทั่งสมาร์ทโฟนด้วยกันเองก็ได้เช่นกัน แต่มีเงื่อนไขว่าแบตเตอรี่ของ Note10 ต้องมีมากกว่า 30% จึงจะแชร์ให้เครื่องอื่นได้

สรุป รีวิว Samsung Galaxy Note10 ในความเห็นของ What Phone

รีวิว Samsung Galaxy Note10 รุ่นนี้ถือแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก แต่ความแรง และฟังก์ชั่นการทำงานไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่น Note10+ เลย เพียงแต่ตัดฟังก์ชั่นบางอย่างออกไปเช่นเซ็นเซอร์ Depth Vision สำหรับการใช้งานสแกนภาพ 3D, เพิ่มหน่วยความจำ microSD ไม่ได้ เป็นต้น แต่หากไม่ซีเรียสถือว่าเป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของคุณผู้หญิงอย่างมาก เพราะตัวเครื่องมีสีชมพูให้เลือก อีกทั้งยังได้ตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่จนเกินไปนัก พร้อมใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่เต็มขอบ สะดวกในการพกพา ขนาดเหมาะมือ ใช้งานได้เทียบเท่า Note10+ แถมยังมีราคาที่ถูกกว่าในราคาเริ่มต้น 32,900 บาท แต่สำหรับใครที่อยากได้ฟังก์ชั่นครบๆ แนะนำ Note10+ เลยครับ ใช้งานครบครันกว่าแน่นอน

ภาพจากกล้อง Samsung Galaxy Note10

สเปค SASMUNG GALAXY NOTE10

• ขนาดตัวเครื่อง 151 x 71.8 x 7.9 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 168 กรัม
• หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR10+ สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic
• กล้องหน้าความละเอียด 10MP รูรับแสง f/2.2 โหมด Night Shot
• กล้องหลัง Triple lens
  • เลนส์มุมกว้าง Ultrawide 123 องศา ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์หลัก มุมกว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.5 & 2.4
  • เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.1
• ชิปประมวลผล Exynos 9825
  • RAM 8GB
  • ROM 256GB UFS 3.0 (ไม่รองรับ microSD Card)
• ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI
• แบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W, ชาร์จไร้สาย 20W, PowerShare 15W
• ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอ AKG
• ไมโครโฟน 3 ตัว (บน, ล่าง และด้านหลัง)
• ซิมการ์ด Dual(LTE)
• การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.0, NFC
• มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68
• มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีรุ้ง Aura Glow, สีดำ Aura Black, สีชมพู Aura Pink
• ราคา 32,900 บาท

• Facebook
• Twitter
• Line