• Facebook
• Twitter
• Line

วางจำหน่ายกันไปแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนซีรีส์ A รุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy A21s ที่มาในหน้าจอใหญ่ แบตอึด กล้องหลัง 4 กับราคาสุดคุ้ม และทีมงาน Whatphone.net ได้มีโอกาสสัมผัสตัวเครื่องและทดลองใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ ก็เลยมาเล่าความรู้สึกเกี่ยวกับการใช้งานด้านต่างๆ ให้ได้อ่านกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามกันเลยครับ

สเปก Samsung Galaxy A21s

• หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ดีไซน์แบบ Infinity-O Display ความละเอียด HD+
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• กล้องหลัง 4 เลนส์
  • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้องอัลตร้าไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องมาโคร (Macro) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ระยะ 4 เซ็นติเมตร
  • กล้องระยะลึก (Dept) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• ชิปเซ็ต Exynos 850
• RAM 6GB
• พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512GB
• ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ One UI 2.1
• แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W
• dual-SIM, 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11ac, NFC
• ระบบเสียง Dolby Atmos (ใช้งานในขณะใส่หูฟัง)
• ช่องเสียบรูหูฟัง 3.5 มม.
• สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง

หน้าจอใหญ่ ดีไซน์สวย จับถนัดมือ

หน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้วมาในดีไซน์ Infinity-O Display ฝังกล้องหน้าความละเอียด 13 พิกเซลไว้ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ซึ่งตำแหน่งนี้ส่วนตัวถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะต่อการใช้งานทั้งในแนวตั้งและแนวนอนที่สุดแล้ว ไม่เกะกะสายตา ค่อนข้างกลืนไปกับหน้าจอ ทำให้ได้การแสดงผลหรือการใช้งานได้แบบเต็มจอบนความละเอียด HD+

ด้านหลังตัวเครื่องมาในดีไซน์เรียบหรูแบบ Holographic โดดเด่นด้วยความวาวสะท้อนแสงออกมาในรูปแบบสีต่างๆ ซึ่งการแสดงผลของการสะท้อนแสงนี้จะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับมุมที่แสงตกกระทบ สวยงามมากๆ และขอบตัวเครื่องยังมีดีไซน์ที่โค้งมนรับกับรูปมือ ทำให้การหยิบจับสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้วแบบนี้ยังจับได้ถนัดมืออยู่

ขอบของตัวเครื่องมีดีไซน์สีที่เข้ากับฝาหลัง โดยจะมีปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่อง (ใช้ร่วมกับปุ่ม Bixby) และปุ่มปรับระดับเสียงสนทนาอยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง และมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดอยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง

และยังมาพร้อมกับพอร์ต USB-C สำหรับใช้งานชาร์จและโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วกว่า microUSB นอกจากนี้ยังคงช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรมาให้ใช้งานกันด้วย หลายๆ คนน่าจะถูกใจตรงนี้

กล้องหลังจัดเต็มแบบรุ่นใหญ่ 4 เลนส์

ใครจะไปคิดว่าสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นตอนนี้จะมีกล้องหลังมาให้ถึง 4 เลนส์ด้วยกัน ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.0 สำหรับการถ่ายรูปภาพทั่วไป กล้องอัลตร้าไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้าง กล้องมาโคร (Macro) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้ 4 เซ็นติเมตร และ กล้องระยะลึก (Dept) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ช่วยให้ภาพดูมิติ ถ่ายหน้าชัดหลังละลาย พร้อมปรับเอฟเฟกต์ Bolkeh ได้ตามใจชอบ และยังรองรับฟีเจอร์ AR Sticker และ AR Doodle มาเป็นลูกเล่นเพิ่มเติมสำหรับสายโซเชียลกันอีกด้วย ส่วนการบันทึกวิดีโอก็สามารถบันทึกไดที่ความละเอียด Full HD 1080p สามารถบันทึกวิดีโอด้วยเลนส์มุมกว้างได้

 

กล้องหน้าเซลฟี่สุดแจ่ม

กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ช่วยให้เซลฟี่ได้หน้าสวยใส มาพร้อมบิวตี้โหมด, โหมด Handy Camera ถ่ายรูปสะดวกสบาย เลื่อนปุ่มถ่ายรูปไว้ตรงไหนของหน้าจอก็ได้ หรือจะใช้ Gesture Control สั่งงานเซลฟี่ด้วยการยกมือขึ้นมาก็ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องเอื้อมมือไปกดปุ่มชัตเตอร์

ประสิทธิภาพ

ชิปประมวลผล Exynos 850 พร้อมกับ RAM 6GB  พื้นที่จัดเก็บข้อมูลมาให้ 64GB และรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 512GB ที่เรียกว่าไม่มากแต่ก็ไม่น้อย เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว และยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่แพงมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่อย่าง Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.1 ที่ตอนนี้มีให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับแฟล็กชิป สำหรับรุ่นนี้ก็จะมีมาให้ใช้งานกันเลย ไม่ว่าจะเป็น Dark mode, Edge panel และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับการเล่นเกม จากที่ได้ทดสอบเล่น PUBG Mobile ก็ถือว่ารับได้ ซึ่งระบบตั้งมาให้เป็น HD แต่ก็ยังเล่นได้ไม่ลื่นไหลมาก พอปรับระดับกราฟิกลงมาก็สามารถเล่นได้อยู่ แต่ส่วนตัวมองว่ายังไม่เหมาะกับการเล่นเกมแนวนี้เท่าไร เนื่องจากหน้าหน้าจอที่ไม่ได้ตอบสนองได้ดีมากนั่นเอง แต่ด้วยราคาระดับนี้เล่นได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว

แบตเตอรี่ใหญ่ 5,000 mAh

มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ความจุ 5,000 mAh ใช้งานได้แบบเต็มวัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว 15W ถึงแม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีที่ชาร์จเร็วหรือแรงอะไร แต่ก็ดีกว่าไม่มีมาให้เลย

สรุป

ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ค่อนข้างครอบคลุม ทั้งในเรื่องของการใช้งานทั่วไป หน้าจอใหญ่ กล้องหลัง 4 เลนส์ที่ให้มาแบบครบครัน คุณภาพไฟล์ก็จัดอยู่ในระดับที่ดีเลย อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้แบบเต็มวัน กับราคาที่ค่อนข้างคุ้มค่ามากๆ 7,799 บาท

สำหรับใครที่ไม่รีบ แนะนำให้ดูโปรโมชันภายในงาน Thailand Mobile Expo 2020 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 ที่ ไบเทค บางนา 

เตรียมพบกับงาน THAILAND MOBILE EXPO 2020 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

2-5 กรกฎาคม 2563 ไบเทคบางนา เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา

 

• Facebook
• Twitter
• Line