Gadget

รีวิว HUAWEI FreeClip อิสระในการฟังกับ C-Bridge Design สวมใส่สบายในทุกโอกาส

HUAWEI FreeClip เป็นหูฟัง True Wirless ที่ไม่เหมือนใคร โดยเป็นแบบคลิปหนีบที่ข้างหูที่ทาง HUAWEI  เรียกว่า C-Bridge Design

หลังจากที่ HUAWEI ได้เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบฉีกแนวหูฟังแบบเดิมๆ อย่าง HUAWEI FreeClip เป็นหูฟัง True Wirless ที่ไม่เหมือนใคร โดยเป็นแบบคลิปหนีบที่ข้างหูที่ทาง HUAWEI  เรียกว่า C-Bridge Design สำหรับการใช้งานจะเปลี่ยนไปอย่างไร เสียงที่ได้จะเป็นอย่างไร มาแกะกล่องดูกันเลยครับ

HUAWEI FreeClip

แกะกล่องลองฟัง HUAWEI FreeClip

ด้านหน้ากล่องจะมีเพียงชื่อรุ่น HUAWEI FreeClip เท่านั้น ไม่ได้มีรูปหูฟังเหมือนรุ่นก่อนๆ แต่อย่างใด ส่วนที่หลังกล่องจะมีจุดเด่นในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่ที่เบา สบาย ด้วยหูฟังแบบ Open-ear มีระบบตรวจจับหูฟังซ้าย-ขวาอัตโนมัติ, มีระบบตัดเสียงรบกวนขณะโทรด้วย AI, รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และกันน้ำ กันเหงื่อ และฝุ่นละอองตามมาตรฐาน IP54 เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ดังนี้

  • Huawei FreeClip สี Black จำนวน 1 คู่ 
  • Charging case 
  • สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C to USB-C 
  • เอกสารรับประกัน และคู่มือการใช้งาน

HUAWEI FreeClip

คราวนี้ทาง HUAWEI ได้เปลี่ยนสายชาร์จมาเป็น USB-C to USB-C แล้ว สามารถชาร์จได้สะดวกขึ้น อาจจะชาร์จกับอแดปเตอร์ หรือจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่มีพอร์ต USB-C ก็ได้เช่นกัน

HUAWEI FreeClip อิสระในการฟังกับ C-Bridge Design สวมใส่สบายในทุกโอกาส

นวัตกรรมดีไซน์แบบใหม่กับหูฟัง Open-ear ใหม่ล่าสุดรุ่นแรกของ HUAWEI ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นคลิปหนีบกับใบหู อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เข้ากับแฟชั่นสมัยใหม่ สวมใส่ได้ตลอดวัน ใส่ได้ทุกโอกาส ตัวหูฟังประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Comfort bean, Ball Acoustic และ C-bridge โดยตัว Ball Acoustic เป็นส่วนของลำโพงที่จะอยู่ตรงหูพอดี ไม่มีส่วนใดเข้าไปในช่องหูให้รู้สึกอึดอัดรำคาญแต่อย่างใด มีน้ำหนักเบาจนแทบจะลืมไปเลยว่ามีหูฟังติดอยู่ สีที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Black และยังมีสี Purple หรือสีม่วงอ่อนให้เลือกอีกด้วย

HUAWEI FreeClip

ตัวลำโพงหรือ Ball Acoustic ไม่ได้อยู่ในช่องหูอาจจะทำให้กังวลว่าจะมีเสียงดังเล็ดลอดออกไป จากการใช้งานหากเปิดเพลงในระดับที่ไม่ดังมากก็จะไม่ได้ยินเสียงออกมา แต่หากเปิดดังจนสุดก็ยังพอได้ยินเสียงอยู่บ้างหากอยู่ในห้องที่เงียบไม่มีเสียงดัง แต่หากอยู่กลางแจ้งก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงดังออกมาเลย

HUAWEI FreeClip

และสำหรับคุณภาพเสียง มิติของเสียงของรุ่นนี้ทำออกมาได้ดีแบบเกินคาด หูฟังทั้ง 2 ข้างให้มิติเสียงที่ดีมาก แยกซ้ายขวาชัดเจน ให้ย่านเสียงค่อนข้างครบถ้วน แต่หากต้องการเสียงเบสหนักๆ อาจจะต้องมองข้ามรุ่นนี้ไป เพราะอาจจะต้องใช้หูฟังแบบ In-ear อย่าง HUAWEI FreeBuds Pro 3 ซึ่งจะให้เสียงเบสที่ดีกว่าลึกกว่าตามสไตล์หูฟังแบบ In-ear

นอกจากนี้ยังสามารถใส่สลับข้างได้โดยไม่ต้องดูว่าข้างไหนเป็นข้างซ้าย หรือข้างขวา เพราะมีระบบตรวจจับหูฟังด้านซ้าย-ขวาอัตโนมัติ

Charging case สี Black ถูกออกแบบมาอย่างเรียบๆ ด้านหน้ามีเพียงไฟ LED บอกสถานะการเชื่อมต่อ และบอกระดับแบตเตอรี่คร่าวๆ เป็นไฟสีเขียว ส้ม และแดง เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับหูฟังทั้ง 2 ข้างที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ อีกทั้งยังมีแม่เหล็กคอยดูดให้หูฟังติดกับ Charging case และช่วยให้หูฟังชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างมั่นคง สามารถเก็บแบบสลับข้างได้ทันที ไม่ต้องกังวลว่าจะใส่ผิดใส่ถูก

HUAWEI FreeClip

HUAWEI FreeClip

HUAWEI FreeClip

ด้านข้างขวาของ Charging case มีปุ่มสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเปิดโหมดการเชื่อมต่อได้เพียงแค่เปิดฝา Charging case แล้วกดค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จนไฟ LED ที่อยู่ด้านหน้ากระพริบเป็นสีขาว จากนั้นทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบ 2 อุปกรณ์

ด้านหลังเป็นแถบโลหะบานพับสีเงิน สามารถเปิดปิดได้ง่ายด้วยมือเพียงข้างเดียว และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายผ่านแท่นชาร์จ หรือ

HUAWEI FreeClip

ส่วนล่างของหูฟังเป็นพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ จะชาร์จกับอแดปเตอร์พอร์ต USB-C หรือคอมพิวเตอร์พอร์ต USB-C ก็ได้ นอกจากนี้ยังใช้สายชาร์จของสมาร์ทโฟนมาชาร์จก็ได้เช่นกัน

การออกแบบทรงโค้งรูปแบบ C-bridge ให้เข้าตามหลักสรีรศาสตร์สวมใส่ความสบายในระดับไมโครเมตร ผลิตจากโลหะผสมจำรูปจากวัสดุนิกเกิลและไทเทเนียมมีความยืดหยุ่นสูงเข้ากันได้ดีกับหูส่วนใหญ่ของคนทั่วไป และยังหุ้มด้วยวัสดุ TPU ที่มีสัมผัสสบายผิว ได้รับการทดสอบ 25,000 ครั้งและตรงตามมาตรฐานการทดสอบการบิดแบบสุดขีด และบริเวณ C-bridge ยังสามารถแตะสั่งงานได้อีกด้วย

HUAWEI FreeClip

HUAWEI FreeClip

หูฟังแต่ละข้างจะมีไมโครโฟนมาให้ถึง 3 ตัว ประกอบไปด้วยไมโครโฟนตัดเสียงลม+ไมโครโฟนแบบ VPU และไมโครโฟนรับเสียงสนทนา

เชื่อมต่อง่ายเพียงคลิกเดียว ใช้ได้ 2 เครื่องได้พร้อมกัน

หากใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI ในการเชื่อมต่อก็จะทำได้ง่าย และสะดวกมากๆ แค่คลิกเดียวเท่านั้น เพียงแค่เปิดฝา Charging case แล้ววางใกล้ๆ กับสมาร์ทโฟน HUAWEI จากนั้นจะมี Pop-up แจ้งเตือนการเชื่อมต่อ เพียงแค่แตะที่ปุ่ม Connect ก็พร้อมใช้งานทันที แต่หากเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นอาจจะต้องเข้าเมนูการเชื่อมต่อ Bluetooth แล้วทำตามขั้นตอนก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรองรับ Dual Device Connection เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน อาจจะเป็นสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง และ PC  1 เครื่อง ไม่ต้องกดเชื่อมต่อสลับไปมาให้เสียเวลา

HUAWEI FreeClip

ส่วนการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่ด้านข้างขวาค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจนไฟกระพริบสีขาวแล้วทำการเชื่อมต่อ Bluetooth ตามขั้นตอนของแต่ละแบรนด์ รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ HarmonyOS, Android, iOS นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ macOS ก็ได้เช่นกัน

HUAWEI FreeClip

เชื่อมต่อแอปฯ HUAWEI AI Life เพื่อการปรับแต่งที่เต็มประสิทธิภาพ

สำหรับการใช้งานเพื่อให้เต็มประสิทธิภาพ ควรใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น HUAWEI AI Life หากใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI สามารถดาวน์โหลดได้จาก HUAWEI AppGallery แต่หากใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถดาวน์โหลดได้ที่เวบไซต์ของ HUAWEI และหากใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก AppStore ได้ตามปกติ

แอปฯ สามารถดูระดับแบตเตอรี่ของหูฟังทั้งสองข้าง และดูระดับแบตเตอรี่ของ Charging case ได้ เลือกปรับโทนเสียงได้จากรูปแบบที่มีไว้ให้เลือก หรือจะเลือกปรับแต่ง Equaliser ได้เองตามใจชอบ นอกจากนี้ก็ยังมีเลือกตั้งค่าการแตะสั่งงานทั้งหูฟังด้านซ้าย หูฟังด้านขวา, อัพเดท Fimware ของชุดหูฟัง และสั่งให้หูฟังส่งเสียงเรียกได้เมื่อหาหูฟังไม่เจอ

HUAWEI FreeClip

ระบบเสียง Open Sound ไดร์เวอร์ความไวสูงแบบ Dual-Magnet

ข้อดีของหูฟังแบบ Open Sound คือความรู้สึกสบาย ไม่อึดอัดเหมือนกับหูฟัง In-ear หรือ On-ear ประกอบกับน้ำหนักเบาของ FreeClip ที่เบาจนเหมือนกับว่าไม่ได้ใส่หูฟังอยู่ อีกทั้งยังได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงของคนที่เข้ามาคุยกับเรา เสียงรถยนต์ขณะเดินอยู่ริมถนน เสียงรอบข้างขณะออกกำลังกาย สามารถฟังบรรยากาศโดยรอบได้โดยไม่ต้องเบาเสียง หรือถอดหูฟัง

สำหรับใครที่กังวลเรื่องการรั่วไหลของเสียง HUAWEI ได้พัฒนาระบบเสียงแบบ Reverse Sound Field Acoustic System โดยสามารถลดการรั่วไหลของเสียงจากมุมต่าง ๆ ได้สูงถึง 6-17 dB เมื่อเทียบกับหูฟังแบบใช้นําเสียงจากกระดูก สำหรับการใช้งานจริงหากอยู่ในห้องที่เงียบก็อาจจะยังได้ยินเสียงออกมาบ้าง หากเปิดเสียงดังจนสุด

HUAWEI FreeClip ยังให้เสียงที่ครบทุกย่านความถี่ด้วยด้วยชุดคอยล์เคลื่อนที่ของวงจรแม่เหล็กคู่ที่มีความไวสูง และไดรฟ์ที่มีแอมพลิจูดขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยรักษาความคมชัดของเสียงไว้ได้ ไดรเวอร์ที่มีความไวสูงแบบแม่เหล็กคู่จะเพิ่มความเข้มของการเหนี่ยวนําแม่เหล็ก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการขับขี่ของลําโพง ซึ่งให้เสียงที่เบสทำออกมาได้ดี รวมไปถึงเสียงแหลมด้วย

บทสรุปการใช้งาน HUAWEI FreeClip จากความเห็นของ What Phone

ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ได้ลองใช้ HUAWEI FreeClip หูฟัง True Wireless ที่มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร เมื่อได้ลองฟังเสียงก็ให้เสียงที่มีมิติ และคุณภาพเสียงดีเกินที่คาดไว้มาก ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ยินเสียงเบสแบบหนักๆ อย่างหูฟัง In-ear แต่ถือว่าทำได้ดีมาก ให้เสียงครบทุกย่านความถี่ หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบายจนบางครั้งก็ลืมไปว่ามีหูฟังเหน็บอยู่ที่หู นอกจากนี้ยังเก็บใส่ Charging case ได้สะดวก เพราะไม่ต้องจัดเก็บหูฟังให้ถูกข้าง สามารถวางชาร์จได้เลย โดยรวมแล้วถือเป็นหูฟังที่ใส่สบายที่สุดเลยก็ว่าได้ ถูกใจผู้ใช้ที่ไม่ชอบใส่หูฟังแบบ In-ear แน่นอน

HUAWEI FreeClip

สรุปสเป็ค HUAWEI FreeClip

  • ขนาดหูฟัง 26.70 × 22.00 × 25.30 มม., น้ำหนัก 5.6 กรัม
  • ขนาด Charging case 59.70 × 51.95 × 27.35 มม., น้ำหนัก 45.5 กรัม
  • แบตเตอรี่หูฟังข้างละ 55 mAh, Charging case 510 mAh
  • Dynamic Driver Dual-Magnet ขนาด 10.86 มม.
  • ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด 8 ชั่วโมง และ 36 ชั่วโมงเมื่อชาร์จกับ Charging case
  • ระบบชาร์จผ่านสาย USB-C
  • Bluetooth Version : 5.3
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 (เฉพาะตัวหูฟัง)
  • มีให้เลือก 2 สี Black, Purple
  • ราคาเปิดตัว 6,490 บาท

โปรโมชั่น

เป็นเจ้าของก่อนใครกับโปรโมชันสุดคุ้ม 2.2 นี้

HUAWEI FreeClip วางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท พร้อมโปรโมชัน รับฟรี HUAWEI Band 8 มูลค่า 1,899 บาท กระเป๋าหูฟัง มูลค่า 599 บาท จำกัด 50 สิทธิ์แรกเฉพาะช่องทางออนไลน์ บริการดูแลหูฟัง HUAWEI Loss Care มูลค่า 499 บาท (1 ข้าง 1ปี ในราคาส่วนลด 50%) เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ 2567– 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยยังเข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt 2024” ช้อปสูงสุด 50,000 บาท รับคืนสูงสุด 17,500 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI FreeClip ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถเข้าร่วมโครงการนำใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์มาลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรได้

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save