เรียกได้ว่ารอบนี้ทางซัมซุงได้จัดเซอร์ไพร์ในงาน Samsung Galaxy Unpacked 2018 ที่ผ่านมา โดยการเปิดตัว Galaxy Watch และ Galaxy Home สมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ วันนี้ทาง Whatphone ก็มีข้อมูลของทั้งสองตัวมาฝากครับ
Galaxy Watch
ในปีนี้ซัมซุงเริ่มเดินหน้าต่อกับ Smart Watch รุ่นล่าสุดด้วยชื่อ Samsung Galaxy Watch แทนที่ Galaxy Gear ซะแล้ว ซึ่งมีดีไซน์คล้ายกันพอสมควร แถมยังรันบนระบบปฏิบัติการของซัมซุงเองอย่าง Tizen ส่วนจุดเด่นที่น่าสนใจ มีดังนี้
-
- Galaxy Watch สี Rose Gold
- มีให้เลือก 2 ไซส์ คือ หน้าปัด 42 mm (หน้าจอ 1.2 นิ้ว) และหน้าปัด 46 mm (หน้าจอ 1.3 นิ้ว)
- ตัวแรมให้มาที่ 768 mb สำหรับรุ่นปกติ และ 1.5 Gb สำหรับรุ่น 4G LTE
-
- Galaxy Watch สี Black
- แบตเตอรี่ขนาด 270 mAh สำหรับรุ่นหน้าปัด 42 mm
- แบตเตอรี่ขนาด 472 mAh สำหรับรุ่นหน้าปัด 46 mm
- โดยทางซัมซุงเคลมว่าทั้ง 2 รุ่นนั้นสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่เกิน 1 วันเต็มแน่นอน
-
- Galaxy Watch สี Silver
- ตัวจอของหน้าปัดใช้กระจก Gorilla Glass DX+ รุ่นใหม่ล่าสุด
- มี GPS และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงโปรแกรมจัดการการออกกำลังกายที่หลากหลาย และการตรวจสอบการนอนหลับ แถมยังสามารถประเมินความเครียดในแต่ละวันของผู้ใช้งานได้อีกด้วย
- หน้าปัดบนระบบปฏิบัติการ Tizen มีให้เลือกโหลดได้มากกว่า 60,000 แบบ
- มีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 และสามารถกันการตกกระแทกได้ในระดับ MIL-STD-810G
ในส่วนของราคานั้นมีให้เลือก 2 โมเดลดังนี้
- รุ่นปกติ (Bluetooth Only) ราคา 330 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 10,900 บาท สำหรับรุ่นหน้าปัด 42 mm | ราคา 350 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 11,600 บาท สำหรับรุ่นหน้าปัด 46 mm
- และรุ่น 4G LTE ราคา 375 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 12,500 บาท สำหรับรุ่นหน้าปัด 42 mm | ราคา 400 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 13,300 บาท สำหรับรุ่นหน้าปัด 46 mm
- เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2561 ในสหรัฐอเมริกา และเตรียมวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศแรก ๆ ในวันที่ 14 กันยายน 2561
Galaxy Home
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้ก็คงจะไม่พ้น Samsung Galaxy Home ที่เปิดตัวมาอย่างอลังการงานสร้างเลยทีเดียว (ก็ถือว่าเปิดตัวมาแข่งกับเจ้าตลาดอย่าง Apple HomePod และ Google Home โดยตรง) ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นลำโพง AKG Smart Speaker ที่ทำงานร่วมกับผู้ช่วยอัจริยะอย่าง Bixby ซึ่งทางซัมซุงได้จับมือกับ Spotify เป็นแอพพื้นฐานในสตรีมมิ่งเพลงของเจ้าตัวลำโพงนี้เลย
ตัวลำโพงนี้ฝังไมค์ไปถึง 8 ตัว เพื่อให้รับฟังการสั่งงานของผู้ใช้งานในระยะไกลได้อย่างชัดเจน (คู่แข่งอย่าง Amazon Echo มีไมค์เพียงแค่ 7 ตัว) และมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า SoundSteer สามารถปรับเสียงเพลงให้ดังขึ้นได้อย่างอัตโนมัติเมื่อเราอยู่ไกล ๆ ห่างจากตัวลำโพงนั่นเองครับ
- ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย
อย่างไรก็ตามหากทางเว็บไซต์เรามีข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเราแล้วจะรีบนำมาอัพเดทให้ทราบทันทีครับ
You must be logged in to post a comment.