ซัมซุงเปิดตัว “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 7 และกาแลคซี่ เอส 7 เอดจ์ (Samsung Galaxy S7 & Galaxy S7 edge)” สมาร์ทโฟนแฟล็กชิปรุ่นล่าสุดจากตระกูลกาแลคซี่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแบบเต็มพิกัด ร่วมมือกับทาง AIS จัดเต็มข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปี ให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของ Samsung Galaxy S7 และ ซัมซุงแฟล็กชิปรุ่นต่อไป พร้อมกันในดีลเดียว เปิดแนวคิดใหม่ ครั้งแรกของเมืองไทยที่ให้ข้อเสนอลูกค้า ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะออกสู่ตลาด เผย หลังเปิดพรีออเดอร์ ผลตอบรับดีเกินคาด ยอดจองทะลุเป้า เปิดขายจริงทั่วประเทศ 18 มีนาคมนี้
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบันจะเห็นว่าการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรูปที่มาจากกล้องบนสมาร์ทโฟนของคนหนึ่งคน คิดเป็น 90% ของรูปที่ถ่ายทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ความสามารถของกล้องจะเป็นปัจจัยหลักในการเลือกและตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน ในประเทศไทยมีปริมาณการโพสต์รูปลงในสังคมออนไลน์สูงมาก โดยโพสต์ในเฟซบุ๊ค 16.5 ล้านรูปต่อวัน ในอินสตาแกรม 477,000 รูปต่อวัน ผลสำรวจพบว่าการถ่ายภาพมักเกิดขึ้นในอินดอร์มากกว่าเอาท์ดอร์ เพราะคนใช้เวลากว่า 90% ของเวลาทั้งหมดใน 1 วันในสถานที่อินดอร์ ซึ่ง 50% มักเป็นที่แสงน้อย จึงมีข้อจำกัดในเรื่องของแสงในการถ่ายภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพัฒนาให้กล้องบนสมาร์ทโฟนให้มีแฟลช ซึ่งแฟลชในกล้องทำให้ภาพไม่สวย ไม่สามารถแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ จึงมีหลายแบรนด์เริ่มพัฒนากล้องสมาร์ทโฟนให้มีรูรับแสงที่กว้างมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการถ่ายภาพในที่แสงจำกัด นอกจากเรื่องกล้องแล้ว ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันมีกิจกรรมสนุกและท้าทายให้ทำมากมาย เช่น การท่องเที่ยวและการเล่นกีฬารวมถึงกีฬาทางน้ำ โดยในทุกๆ กิจกรรมสมาร์ทโฟนมักเป็นสิ่งสำคัญที่จะอยู่ติดมือคนในทุกๆ ที่ ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ เพื่อแชทกับพื่อน ชมวิดีโอ ฟังเพลงเพื่อความบันเทิง นอกจากนี้เรื่องของหน่วยความจำต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ จากผลการสำรวจพบว่ากว่า 50% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน ต้องการให้สมาร์ทโฟนมีหน่วยความจำตั้งแต่ 64 กิกะไบต์ขึ้นไป”
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของซัมซุงได้พัฒนา Galaxy S ทั้ง 6 รุ่น โดยเรียนรู้จากผู้บริโภคว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคืออะไร และพัฒนาออกมาเป็น Galaxy S7 ที่ตอบความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เพราะเราได้ผนวกเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำตลาด ช่วยให้ผู้บริโภคได้สนุกสนานกับชีวิตมากขึ้น และได้ขยายขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้ให้กว้างไกลยิ่งขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์สุดเฉียบและพิถีพิถัน กล้องสุดล้ำ สวย สว่าง แม้แสงน้อย และจับโฟกัสได้เร็วเหลือเชื่อ ความสามารถกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 สามารถอยู่ใต้น้ำได้ลึกสุด 1.5 เมตร นานสุด 30 นาที พร้อมช่องใส่ซิมระบบไฮบริด จะเลือกใส่เป็นซิมที่สองหรือเพิ่มหน่วยความจำก็ทำได้ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแนวคิด ‘แล้วคุณจะพบว่าสมาร์ทโฟนทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด’”
คุณวิชัยสาธิตการถ่ายภาพในสภาวะที่แสงน้อย ซึ่ง Galaxy S7 ยังสามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว และถ่ายภาพได้อย่างคมชัด
ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ทำให้ Samsung Galaxy S7 สามารถกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด เอไอเอส เปิดเผยว่า “ถือเป็นการพัฒนาความร่วมมือระหว่างเอไอเอส และซัมซุง ให้ก้าวอีกขั้น ในการสร้างเอ็กซ์คลูซีฟดีล เพื่อมอบ “ข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปี” ให้ลูกค้าที่ซื้อ Samsung Galaxy S7 edge / S7 ได้รับสิทธิ์อัพเกรดเครื่องใหม่ เป็น ซัมซุงแฟล็กชิปรุ่นต่อไป ก่อนใคร ภายใต้ดีลพิเศษ ใช้บริการต่อเนื่อง 2 ปี ได้ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 2 เครื่อง พร้อมฟรี! ค่าบริการรายเดือน นาน 22 เดือน (จำนวนจำกัด 5,000 คนแรกเท่านั้น) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- จ่ายชำระเบื้องต้นเพียงแค่ 5,000 บาท
- เลือก Samsung Galaxy S7 แบ่งชำระค่าเครื่อง เดือนละ 2,100 บาท นาน 10 เดือน
- เลือก Samsung Galaxy S7 edge แบ่งชำระค่าเครื่อง เดือนละ 2,400 บาท นาน 10 เดือน
- รับฟรี! ค่าโทร 400 นาที และ เน็ต 30 GB นาน 12 เดือน มูลค่า 11,400 บาท (รวม VAT)
- หลังจากเดือนที่ 12 ลูกค้าสามารถนำเครื่อง Samsung Galaxy S7 / S7 Edge มาอัพเกรดเป็นสมาร์ทโฟนซัมซุงเรือธงรุ่นต่อไป เพียงชำระค่าเครื่อง เดือนละ 2,000 บาท (S7) หรือเดือนละ 2,300 บาท (S7 edge) นาน 10 เดือน พร้อมรับฟรี! ค่าโทร 400 นาที และ เน็ต 30 GB นาน 10 เดือน มูลค่า 9,500 บาท (รวม VAT)
โดยแคมเปญนี้ รวมทุกความคุ้มค่าที่คอสมาร์ทโฟนต้องการไว้ในแพ็กเดียว ทั้งลดค่าเครื่องราคาพิเศษ, ผ่อน 0%,ฟรี! ค่าบริการรายเดือน และรับสิทธิ์อัพเกรดเป็นเครื่องรุ่นใหม่ เป็นแนวคิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการดีไวซ์เมืองไทย เพื่อตอบโจทย์คอสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ที่ชอบความทันสมัย เกาะติดเทรนด์ดีไวซ์ใหม่ๆ และนิยมเปลี่ยนมือถือเป็นรุ่นใหม่อยู่เสมอ
นอกจากนี้ เอไอเอสยังพร้อมประกาศให้บริการโทรด้วยเสียงบนเครือข่าย 4G หรือ VoLTE (Voice over LTE) บนเครือข่าย AIS 4G ที่ครอบคลุมกว่า 59 จังหวัด และจะขยายครบทั้ง 77 จังหวัด ภายในเดือน พ.ค. 59 อย่างแน่นอน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานโทรด้วยเสียง (Voice) บนเครือข่าย 4G ซึ่งให้คุณภาพเสียงคมชัดยิ่งขึ้นระดับ Full HD, เสียงรบกวนต่ำ, ใช้เวลาเชื่อมต่อคู่สายขณะโทรออกเร็วขึ้นกว่าเดิม สำหรับลูกค้าเอไอเอส 4G ผู้ใช้มือถือ Samsung S7 edge, S7, S6 edge, S6,จะสามารถใช้งาน VoLTE ได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 59 เป็นต้นไปเพียงอัพเกรดซอฟแวร์เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด โดยการโทรบน VoLTE จะคิดค่าบริการเหมือนการโทรปกติ ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าใช้บริการ โดยไม่คิดค่าบริการดาต้าหรืออินเทอร์เน็ต 4G แต่อย่างใด”
“ครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของทั้งสองบริษัทที่มีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหนือชั้น ทั้งด้านเทคโนโลยี (Best Network) กับการเปิดให้บริการ VoTLEและด้านดีไวซ์ (Best Device) ที่ให้ลูกค้าได้ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ก่อนใคร ทันทีที่วางจำหน่าย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัลให้กับคนรุ่นใหม่ ในอนาคต เอไอเอสและซัมซุง ยังคงเดินหน้าส่งมอบความพิเศษให้ลูกค้าได้รับประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุดอย่างแน่นอน” นายฐิติพงศ์กล่าวสรุป
“ซัมซุงเชื่อว่ากาแลคซี่ เอส 7 จะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากผู้บริโภคในเมืองไทยไม่แพ้กาแลคซี่ เอส รุ่นก่อนหน้า โดยช่วงที่เปิดพรีออเดอร์ก่อนขายจริง 18 มีนาคมนี้ ได้ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะยอดจองทะลุเป้า ยิ่งได้รับความร่วมมือจากเอไอเอส พันธมิตรทางธุรกิจที่ดีเสมอมาของเรา ที่ร่วมกันสร้างสรรค์และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค เราเชื่อว่าการผสานพลังระหว่างซัมซุงและเอไอเอสในครั้งนี้จะเป็นการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ให้ชีวิตของผู้บริโภคสะดวกสบายและสมบูรณ์แบบกว่าที่เคย เพราะสุดยอดสมาร์ทโฟนเน็กซ์เจน อย่าง กาแลคซี่ เอส 7 บนเครือข่ายคุณภาพเอไอเอส จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของซัมซุงในด้านนวัตกรรมและความเป็นผู้นำของเอไอเอสในด้านผู้ให้บริการเครือข่ายคุณภาพได้อย่างไร้ที่ติแน่นอน”นายวิชัย กล่าวปิดท้าย
You must be logged in to post a comment.