Japan Display (JDI) บริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หลังจากเทรนด์กระแสโลกเริ่มหันไปใช้หน้าจอ OLED มากกว่า LCD ทำให้ต้องพิจารณาว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป
เจแปนดิสเพลย์นั้นมุ่งเน้นทางการผลิตหน้าจอ LCD เป็นหลัก แต่ปีที่แล้วราคาต้นทุนการผลิตหน้าจอ OLED ลดต่ำลงมาเท่ากับ LCD เป็นครั้งแรก และปัจจุบันถูกกว่า LCD ไปแล้ว นอกจากราคาต้นทุนการผลิต OLED จะต่ำกว่า LCD แล้ว หน้าจอ OLED ยังไม่ต้องใช้ไฟแบคไลท์ด้านหลังเพื่อให้ภาพสว่างด้วย ทำให้กินไฟน้อยกว่า และสีดำเป็นสีดำจริงๆ ส่วนการใช้งานทั่วไปก็สีสันสดใสมาก ทำให้ผู้ผลิตมือถือเริ่มหันไปใช้ OLED แทน LCD
ถ้าถามว่ากระแส OLED แรงแค่ไหน ก็ถึงขนาดทำให้ Apple เตรียมทดลองทำสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่จะใช้หน้าจอ OLED ขายแยกจากรุ่นหลักเลยล่ะ (iPhone 8 จะใช้ OLED ส่วน iPhone 7s / 7s Plus จะยังคงใช้ LCD) และนั่นทำให้หน้าจอ OLED ขาดตลาดไปทั่วโลกหนักกว่าเดิมอีก
ส่วนปีหน้า Apple จะหันไปใช้หน้าจอ OLED กับมือถือทุกรุ่น โดยจะจ้างทั้ง Samsung และ LG เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีแพแนลหน้าจอ OLED เพียงพอ ข่าวร้ายของเจแปนดิสเพลย์ก็คือไม่สามารปรับตัวไปเป็นผู้ผลิตหน้าจอ OLED ได้ทัน ทำให้ไม่สามารถผลิตให้ Apple ได้
ในอดีต Apple เคยว่าจ้างให้เจแปนดิสเพลย์ผลิตหน้าจอ LCD ให้ด้วยเหมือนกัน แต่การล็อกจะใช้แต่ OLED ในอนาคตทำให้ คราวนี้จะไม่มีโอกาสขายให้ Apple อีกต่อไป
ผู้บริหารของ Japan Display (JDI) มีแผนจะประชุมกันเพื่อตัดสินใจว่าจะผันตัวไปเป็นผู้ผลิตหน้าจอ OLED ในอนาคต หรือจะยังคงผลิตแต่ LCD โดยเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือการหาเงินเพิ่ม 100,000 ล้านเยนจากผู้สนับสนุน ซึ่งมีทั้งหน่วยงานสนับสนุนนวัตกรรมของประเทศญี่ปุ่น โซนี่ ฮิตาชิ และโตชิบ้า
ที่มา – Phone Arena
You must be logged in to post a comment.