HTC เคยเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการมือถือที่รายอื่นมุ่งหวังจะแซงหน้าให้ได้ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ยอดขายตกต่ำ และแผนการตลาดที่ไม่ปัง แม้มือถือจะมีคำชมที่ดีแต่ยอดขายกลับไม่กระเตื้องนัก
HTC
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมารายได้ของบริษัทเข้าขั้นแย่ที่สุดในรอบ 13 ปี โดยรายได้เทียบกับเดือนกรกฏาคมแล้วตกลงไป 51.5% หรือถ้าเทียบกับสิงหาคมปีที่แล้วก็หายไป 54.3% เลยทีเดียว
แม้ว่า เอชทีซี 10 และ U11 ที่เปิดตัวปีที่แล้ว กับปีนี้จะเป็นมือถือที่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก แต่ยอดขายกลับสวนทางกัน ทำให้รายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นแต่รายรับตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่ง เอชทีซี Desire 555 ที่เพิ่งเปิดตัวขายได้เดือนครึ่งตอนนี้ก็หาซื้อไม่ได้แล้ว
สิ่งที่พอจะอธิบายสาเหตุของเรื่องเหล่านี้ก็คือ เอชทีซี กำลังเจรจากับ Google เพื่อขายแผนกธุรกิจมือถือ โดยตอนนี้อยู๋ในขั้นตอนเจรจาระยะสุดท้ายแล้ว ก่อนจะปิดดีลขายแผนกมือถือไป สำนักข่าวจีนอย่าง Commercial Times รายานว่า Google กำลังพิจารณาว่าจะเป็น Strategic Partner ของ เอชทีซี หรือจะเข้าซื้อแผนกธุรกิจมือถือไปเลยดี
สำหรับแผนกที่ไม่ถูกขายงวดนี้ก็คือ Vive บริษัทลูกที่ทำหมวกสวมหัวเพื่อเล่น VR นั่นเอง เนื่องจากยังสามารถทำกำไรอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ความสัมพันธ์ของ Google กับเอชทีซี นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ก้าวแรกของ Android ด้วย เอชทีซีDream (T-Mobile G1) มือถือแอนดรอยด์เครื่องแรกของโลก และ Nexus One มือถือ Nexus ตัวแรก แม้จะหายไปนานแต่ก็กลับมาปีที่แล้วด้วยการให้ เอชทีซี ผลิต Pixel ให้
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทาง Google จะพอใจผลงานของเอชทีซีนัก ทำให้มีข่าวลือว่าปีนี้ Google ว่าจ้างให้ LG ผลิต Google Pixel 2 XL มือถือรุ่นใหญ่ในซีรีส์ Pixel แทนเอชทีซี
ทางสำนักข่าว Commercial Times รายงานข่าวแบบไม่มีแหล่งข่าวให้อ้างอิง ดังนั้นให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวลือเอาไว้ก่อน อย่างไรก็ตามพอข่าวนี้ออกมาหุ้นของ เอชทีซี ก็ตกลงไป 8% ทันที ถ้า Google กำลังรอซื้อ เอชทีซี นี่ก็เป็นจังหวะดีที่จะปิดดีลให้เสร็จแล้วล่ะ
ที่มา – Phone Arena
You must be logged in to post a comment.