Asus เปิดตัว Zenfone 7 และ Zenfone 7 Pro ตามสัญญาแล้ว โดยรอบนี้ยังคงจุดเด่นกล้องที่ฟลิปมาเป็นกล้องหน้าได้ และจอใหญ่แบตอึดเช่นเดิม
ตัวกล้องใช้กล้องหลังสามตัว กล้องหลักคือ SONY IMX868 ที่มีความละเอียด 64 Megapixel สามารถถ่ายวิดิโอ 8K ได้สบายๆ ส่วอกีอสองตัวเป็น UltraWide Angle (SONY IMX363 ความละเอียด 12 Megapixel) และ Telephoto ซูม 3 เท่า ความละเอียด 8 Megapixel
ทั้ง Zenfone 7 และ Zenfone 7 Pro มีจุดร่วมที่ใช้หน้าจอ 6.7 นิ้ว (2400 x 1080) แบบ HDR+ AMOLED และรองรับการแสดงผล 90Hz หน้าจอได้รับการปรับจูนโดย PixelWorks ทำให้การันตีสีตรงไม่มีเพี้ยน และแม้จะลดความสว่างลงการแสดงผล HDR ก็ไม่ทำให้ภาพกระพริบแต่ประการใด ส่วนกระจกหน้าใช้ Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุดที่มีความทนทานจากการขีดข่วนสูง รวมไปถึงไม่มีติ่งหน้าจออีกด้วยเพราะกล้องสามารถพับจากด้านหลังมาด้านหน้าได้
สำหรับหน่วยประมวลผล Zenfone 7 จะใช้ Snapdragon 865 ขณะที่ Zenfone 7 Pro จะใช้ Snapdragon 865+ ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลและหน่วยความจำ Zenfone 7 Pro จะใช้ RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ส่วน Zenfone 7 จะมีตัวเลือกระหว่าง RAM 6 หรือ 8GB กับพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB และถ้าหากพื้นที่ไม่พอสามารถใส่หน่วยความจำเพิ่มเติมได้อีกสูงสุดที่ 2TB
ตัวเครื่องทั้งคู่มีแบตเตอรีขนาด 5,000 mAh สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 30W เร็วกว่า Zenfone 6 ที่จ่ายไฟเพียง 18W เท่านั้น ข่าวร้ายคือไม่รองรับการชาร์จไฟแบบไร้สาย รวมไปถึงไม่มีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม อีกด้วย ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นเป็น ZenUI 7 ครอบทับ Android 10 อีกทีหนึ่ง ส่วนตัวอ่านลายนิ้วมือนั้นอยู่บนปุ่ม Power
บอดี้ส่วนที่เป็นโลหะนั้นทำมาจากอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ที่ทนทาน ประกบด้วยกระจกหน้าหลังตามสมัยนิยม แต่ด้านหลังจะเป็นเพียง Gorilla Glass 3 เท่านั้น
สำหรับประเทศบ้านเกิดอย่างไต้หวันนั้นเริ่มขายแล้ว ส่วนการวางจำหน่ายทั่วโลกจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ราคาของ Zenfone 7 อยู่ที่ €699 ยูโร (ราวๆ 26,000 บาท) ส่วน Zenfone 7 Pro อยู่ที่ €799 ยูโร (ราวๆ 29,500 บาท) แพงกว่าตอนที่ Zenfone 6 เปิดตัวพอสมควร (ราคาเปิดตัว Zenfone 6 คือ €500 ยูโร)
ที่มา – Phone Arena, GSMarena, The Verge
You must be logged in to post a comment.