• Facebook
• Twitter
• Line

ช่วงต้นปี 2019 แบบนี้ หลายคนคงจะลังเลที่จะซื้อสมาร์ทโฟนเรือธงสักรุ่นเพื่อใช้งานยาว ๆ กันแบบคุ้ม ๆ วันนี้ทาง WhatPhone ก็มีบทความเปรียบเทียบสเปกชิปเซ็ตบนสมาร์ทโฟนเรือธงที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ณ ตอนนี้อย่าง Kirin 980 และ Snapdragon 845 ว่าใครจะแรงกว่ากัน? มาฝากกันครับ

Kirin 980

เริ่มต้นกันด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากหัวเว่ยผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเบอร์ต้น ๆ ของโลกที่ได้ส่งหน่วยประมวลผล Kirin 980 ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยสถาปัตยกรรมของนั้นมีแปดคอร์ ประกอบไปด้วย สองคอร์ใช้สำหรับการทำงานแบบเทอร์โบ สองคอร์ใช้สำหรับการทำงานระยะยาว และสี่คอร์ที่เหลือซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดใช้สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเมื่อแบตเตอรี่เหลืออยู่ไม่มากนัก แถมยังเป็นชิปเซ็ตมือถือที่ประมวลผลในระดับ 7nm ตัวแรกของโลก (แม้จะไม่ได้วางจำหน่ายเป็นรุ่นแรกของโลกก็ตาม)

เป็นชิปเซ็ตตัวแรกที่สร้างขึ้นด้วยหน่วยประมวลผล ARM’s Cortex-A76 CPU ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า A75 ของ Qualcomm ที่ใช้ใน Snapdragon 845 แถมยังเปิดแอปพลิเคชั่นได้เร็วกว่าด้วย

หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G76, เป็นการออกแบบ dual NPU ตัวแรกของโลก รองรับ GPU Turbo ช่วยให้เฟรมเรตเวลาเล่นเกมส์ไม่ตก (เฉพาะบางเกมส์เท่านั้น) พร้อมรองรับ LTE Cat.21 และเป็นชิปตัวแรกที่รองรับแรม LPDDR4X ที่ความเร็ว 2,133 MHz

 

Snapdragon 845

ปิดท้ายกันด้วยเบอร์ 1 แห่งวงการผู้ผลิตชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนอย่าง Qualcomm ที่เปิดตัว Snapdragon 845  มาตั้งแต่ปี 2017 แต่ทุกวันนี้บ้านเราก็ยังขายสมาร์ทโฟนที่ใช้หน่วยประมวลผลนี้อยู่มากมายหลายตัว ในส่วนของสเปกนั้นมาพร้อมนั้นเป็นชิป octa-core โดยใช้ CPU Kryo 385 โดยมี 4 คอร์ประสิทธิภาพ ทำงานที่ 2.8GHz และอีก 4 คอร์ประหยัดพลังงาน ทำงานที่ 1.8GHz บวกกับชิปกราฟฟิก GPU Adreno 630, ชิปประมวลผลภาพ Spectra 280, ชิป Hexagon 685, ชิปเสียง Aqstic Audio และโมเดม Snapdragon X20 LTE และยังคงผลิตบนสถาปัตยกรรม FinFET 10 นาโนเมตร

 

ตารางเปรียบเทียบสเปก

จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า Kirin 980 นั้นแรงกว่า Snapdragon 845 พอสมควร ซึ่งก็แน่นอนล่ะเพราะการเปิดตัวของชิปเซ็ตทั้งสองรุ่นนั้นห่างกันตั้ง 1 ปี ด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าหลายด้าน อาทิ กระบวนการผลิตที่ 7 nm ความเร็วของ RAM ที่มีมากกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ความเร็วแรงในแง่ของสเปกก็ไม่สามารถบอกได้ว่าการใช้งานทั่วไปจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใดครับ

 

สมาร์ทโฟนที่รองรับ (จำหน่ายในประเทศไทย ก.พ. 62)

• ชิปเซ็ต Kirin 980

  • Huawei Mate 20 (ราคา 21,990 บาท)
  • Huawei Mate 20 X (ราคา 28,990 บาท)
  • Huawei Mate 20 Pro (ราคา 31,990 บาท)

 

• ชิปเซ็ต Snapdragon 845

  • Pocophone F1 (ราคา 10,990 บาท)
  • Xiaomi Mi 8 (ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท)
  • Xiaomi Mi 8 Pro (ราคา 18,990 บาท)
  • Xiaomi Mi Mix 3 (ราคา 18,999 บาท)
  • OnePlus 6 (ราคาเริ่มต้น 15,999 บาท)
  • OnePlus 6T (ราคาเริ่มต้น 18,999 บาท)
  • OnePlus 6T McLaren Edition (ราคา 25,999 บาท)
  • Oppo Find X (ราคา 29,990 บาท)

 

และเตรียมพบกับโปรโมชั่นพร้อมราคาพิเศษของสมาร์ทโฟนเรือธงทั้งสองชิปเซ็ตได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 ณ ไบเทค บางนา วันที่ 7 – 10 กุมภาพันธ์ เร็ว ๆ นี้

 

ที่มา : Hihonor, 2, 3

 

• Facebook
• Twitter
• Line