• Facebook
• Twitter
• Line

ล่าสุดทาง Samsung ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงจอยักษ์ตัวล่าสุด Galaxy Note 8 ซึ่งเป็นที่ฮือฮาพอสมควร แต่ผมคิดว่าหลายๆคนคงอยากรู้เหมือนกันว่ารุ่นนี้สเปคจะแตกต่างจากสมาร์ทโฟนตัวอื่นอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ผมเลยนำให้เทียบให้เห็นจะๆเลย ทั้ง Samsung Galaxy S8+, Nokia 8 และ iPhone 7 Plus

ขนาด ความกว้างและลักษณะของจอแสดงผล

ในขนาดตัวเครื่องนั้นจะไม่ค่อยแตกต่างกันมาก ยกเว้น Nokia 8 ที่ขนาดจะเล็กกว่ารุ่นอื่่นๆทั้งหมดที่เทียบกันนะครับ

แต่ว่าทั้ง Galaxy Note 8 และ Galaxy S8+ จะได้เปรียบกว่ารุ่นอื่นๆตรงในเรื่องการออกแบบที่เป็นทรงไร้ขอบ ทำให้อัตราส่วนจอแสดงผลกับขนาดเครื่องนั้นค่อนข้างสูง ทำให้ขนาดจอแสดงผลนั้นแน่นอนว่าใหญ่มาก โดยเฉพาะ Note 8 ที่ให้ขนาดจอแสดงผลสูงสุด 6.3 นิ้วเลยทีเดียว รองลงมาก็จะเป็น S8+ ที่มีขนาด 6.2 นิ้ว ส่วน iPhone 7 Plus และ Nokia 8 มีขนาดหน้าจอเท่ากันคือ 5.5 นิ้ว มีจุดสังเกตคือ iPhone 7 Plus จอ 5.5 นิ้วแต่ขนาดเกือบเท่า Galaxy S8+ เลยครับ

ในด้านดีไซน์นั้นจะแตกต่างกันเป็นพิเศษในด้านลักษณะของจอแแสดงผล โดยสมาร์ทโฟนซัมซุงทั้งสองรุ่นจะมีการดีไซน์หน้าจอที่โค้งตรงขอบด้านข้างเหมือนกัน(แต่ Note 8 โค้งชันกว่า) ส่วน iPhone 7 Plus และ Nokia 8 จะเป็นหน้าจอแบนราบเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป ครอบด้วยกระจกโค้งแบบ 2.5D

ดีไซน์การออกแบบตัวเครื่อง

ในด้านการออกแบบนั้นบอกเลยว่า รุ่น Note 8 และ S8+ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดกันเลยครับ แต่แตกต่างตรงความโค้งของเครื่องที่ Note 8 จะเหลี่ยมกว่าเล็กน้อย และตัวสแกนลายนิ้วมือมีระยะห่างจากตรงกลางมากกว่าเดิมทำให้ใช้งานง่ายขึ้น บอดี้หลังเป็นกระจกโค้งแบบสมมาตร ทำให้จับพอดีมือ

ส่วน iPhone 7 Plus และ Nokia 8 ตัวสแกนลายนิ้วมือจะอยู่ด้านหน้าเครื่องแทน และบอดี้จะเป็นอลูมิเนียม(แต่ iPhone 7 Plus ก็มีรุ่นสีดำที่บอดี้เป็นกระจกด้วยนะ สี Jet Black ไงล่ะ)

แต่ข้อเสียในความคิดผมก็คงจะหนีไม่พ้นในรุ่น iPhone 7 Plus ที่เซ็นเซอร์กล้องจะนูนออกมามากกว่าชาวบ้านพอสมควร ใครที่ชอบไม่ใส่เคสก็ระวังด้วยล่ะครับ

ด้านกล้องถ่ายภาพ

ถือว่าเป็นจุดชิงดีชิงเด่นในสมาร์ทโฟนยุคนี้เลยก็ว่าได้ ในด้าน Note 8 ก็ประเดิมด้วยเช่นกันด้วยเทรนด์กล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยใช้เลนส์มุมกว้างและมุมแคบ การันตีการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ต่อด้วยระบบกันสั่น OIS ที่ให้มาทั้งลองเลนส์เป็นตัวแรกตัวโลก จะซูมแล้วถ่ายก็ไม่หวั่นภาพเบลออีกต่อไป

iPhone 7 Plus มีพร้อมกล้องหลังคู่แบบเดียวกับ Note 8 แต่จะเก็บแสงได้น้อยกว่า

ส่วนในด้าน Nokia 8 ก็มาพร้อมกล้องคู่เช่นกันที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แต่จะเน้นไปทางด้านการเก็บลายละเอียดมากกว่าด้วยเลนส์ถ่ายสีและขาวดำ(คล้าย Huawei P10) แถมการันตีด้วยเลนส์จาก Carl Zeiss ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ตอกย้ำด้วยระบบอัดเสียงคุณภาพระดับสตูดิโอด้วย Nokia OZO แถมด้วยโหมด Bothie เครื่องแรกของโลกที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และรองรับ Live Stream ด้วย

และตัวสุดท้าย Galaxy S8+ มาพร้อมกล้องตัวเดียวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกันสั่น แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ทุกรุ่นที่เทียบมานี่รองรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอทั้งสิ้น

ชิพประมวลผล

ฝั่ง Samsung ได้ชิปประมวลผลตัวเดียวกันทั้งรุ่น Note 8 และ S8+ เลยนั่นคือ Exynos 8895 ที่พัฒนาในเทคโลโลยรการผลิตระดับ 10nm การันตีการใช้พลังงานทและความร้อนที่น้อยลง แต่ Note 8 ให้แรม 6GB ซึ่งสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ใช้งานหลายแอพพร้อมกันไม่ต้องกลัวเด้งออกเลย

ส่วน S8+ และ Nokia 8 จะให้แรมมา 4GB พอหอมปากหอมคอ และชิพประมวลผลของ Nokia 8 จะใช้ชิพประมวลผล Snapdragon 835 สุดแรงที่พัฒนาในเทคโลโลยรการผลิตระดับ 10nm เช่นกัน ซึ่งประสิทธิภาพโดยรวมทั้งสองชิพนั้นสูสีกันอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นเล่นเกมส์สบายใจหายห่วง

ส่วนในด้าน iPhone 7 Plus มาพร้อมชิพประมวลผลตัวเกือบล่าสุด Apple A10 Fusion (ตัวล่าสุดตอนนี้เป็น Apple A10X Fusion ที่อยู่ใน iPad Pro) การันตีว่าลื่นไหลใช้ได้อีกยาวเลยครับ ในด้านแอพพลิเคชัน เกมส์คงรู้ๆกันอยู่แล้วล่ะ ด้วยระบบปฏิบัติการ iOS ที่พัฒนาโดย Apple

แล้ว Galaxy  Note 8 โดนเด่นกว่ารุ่นอื่นๆยังไง?

แน่นอนว่าเป็นเจ้าตัวปากกา S-Pen ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของตระกูล Note เลย แถม Note 8 ยังพัฒนาเจ้าตัวปากกานี้มาเยอะมากๆ ทั้งการจด เขียน วาด ใช้ปากกาออกคำสั่งพิเศษอย่าง Air Command ช่วยอำนวยความสะดวกได้แบบสุดๆ แถมด้วยการพัฒนาฟีเจอร์กล้องดีขึ้นกว่าเดิม ทั้ง Live Focus, Dual Capture แถมยังเป็นเพียงสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่รุ่นที่รองรับการสแกนม่านตาด้วย(S8+ ก็รองรับนะ) ถ้าอยากรู้จุดเด่นเพิ่มเติมสามารถอ่านบทความแยกได้ที่นี่เลยครับ

ถ้าได้อ่านแล้วคงตัดสินใจได้นะครับว่าชอบแบบไหน เลือกรุ่นไหนดี และถ้าตัดสินใจได้แล้วอยากรอโปรโมชันพิเศษ เจอกันได้นะครับที่งาน Thailand Mobile EXPO ในวันที่ 28 กันยายนนี้

แถมทิ้งท้ายด้วยตารางสเปคเทียบแบบละเอียดๆสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคด้วยจ้า

 

 

• Facebook
• Twitter
• Line