Article

แล้วการประมูล 900 MHz รอบสองก็เกิดขึ้น!

สวัสดีครับ พบกับผมเช่นเคย ปีเตอร์กวง ควงมือถือ ใน What Phone Magazine ทุกเดือนอีกเช่นเคย เพื่อไขข้อข้องใจและเก็บตกข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการเทเลคอม สำหรับฉบับนี้จะมาพูดเรื่อง การประมูลความถี่ 900 MHz รอบสองหลังจากที่ทาง JAS Mobile ได้ยกธงยอมแพ้ไปไม่มาจ่ายเงินค่าใบอนุญาตและวางหนังสือค้ำประกันตามที่ชนะการประมูล แล้วการประมูลรอบสองจะเป็นอย่างไรต่อไป…

สวัสดีครับ พบกับผมเช่นเคย ปีเตอร์กวง ควงมือถือ พิธีกรรายการ “ล้ำหน้าโชว์” ซึ่งรายการนี้ผลิตและสร้างสรรค์โดย บริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด ที่เราทั้งสาม (พี่หลาม ปีเตอร์กวง อาจารย์ศุภเดช) ได้ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ด้วยกันเพื่อให้ผู้ชมได้บริโภคสาระดีๆ ที่ให้ความรู้ด้านไอทีและเทเลคอม บวกกับความบันเทิงตามสไตล์แบบของพวกเราไปด้วย โดยออกอากาศทางช่อง Nation Channel (เนชั่นแชนแนล) รับชมได้ที่ช่อง 22 ทั้งทางทีวีดิจิตอลและทีวีดาวเทียม ซึ่งล่าสุดเรามีปรับเวลาเล็กน้อยมาเป็นทุกวันเสาร์ ออกอากาศเวลา 16:00-17:00 อยากให้ติดตามกันเยอะๆ นะครับ แล้วบ่ายวันเสาร์ของคุณ จะมีความหมายมากกว่าเดิม… สำหรับตัวผมเองก็ยังประจำการใน What Phone Magazine ทุกเดือนเหมือนเช่นเคยครับ เพื่อไขข้อข้องใจและเก็บตกข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการเทเลคอม ทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ สำหรับฉบับนี้จะมาพูดเรื่อง การประมูลความถี่ 900 MHz รอบสองหลังจากที่ทาง JAS Mobile ได้ยกธงยอมแพ้ไปไม่มาจ่ายเงินค่าใบอนุญาตและวางหนังสือค้ำประกันตามที่ชนะการประมูล แล้วการประมูลรอบสองจะเป็นอย่างไรต่อไป…

JAS Mobile ยอมแพ้ไม่มาจ่ายเงินค่าใบอนุญาต ด้วยสารพัดเหตุ….

jas

หลังจากการประมูลคลื่น 900 MHz จบไปแน่นอนว่าผู้ชนะอย่าง True Move H Universal Communication และ JAS Mobile จะมีเวลา 90 วันตามกติกา ในการนำจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรก (ปีแรก) ในมูลค่า 8,040 ล้านบาท พร้อมกับวางหนังสือค้ำประกันวงเงินประมูล (Bank Guarantee) ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล (มากกว่า 72,000 ล้านบาท) อย่างที่เราทราบกันนะครับ เงินค่าใบอนุญาตงวดแรก 8,040 ล้านบาทนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่หนังสือค้ำประกันวงเงินประมูลนั้นสิครับ ยากกว่ามากในการได้มา เพราะมีมูลค่ากว่า 72,000 ล้านบาทที่ต้องทำเป็นหนังสือค้ำประกันฯ ทางผู้ชนะนั้นต้องทำงานกับธนาคารที่ตัวเองเป็นพันธมิตรอยู่ ซึ่งวงเงินมหาศาลขนาดนี้นั้นถ้าไม่มีแผนงานที่ดีเสนอต่อธนาคารแล้ว คงเป็นเรื่องยากที่ธนาคารจะออกหนังสือให้ ถึงแม้จะแบ่งออกเป็นหลายๆ ธนาคารก็ตาม (เพราะความเสี่ยงจะไปตกที่ธนาคารทันที ถ้าบริษัทเอกชนคู่สัญญานั้นผิดสัญญากับทาง กสทช. แล้ว กสทช. ก็มีสิทธิยึดเงินค้ำประกันนั้นจากธนาคารที่เป็นผู้รับผิดชอบได้)

โดยทาง True Move H ได้เข้ามาชำระเป็นรายแรกในวันที่ 11 มีนาคม 2559 ตามจำนวน 8,040 ล้านบาท และหนังสือค้ำประกันฯ 73,036.06 ล้านบาท (True ชนะไปที่มูลค่า 76,286 ล้านบาท ขณะที่ JAS Mobile ชนะไปที่มูลค่า 75,654 ล้านบาท) โดยหนังสือค้ำประกันฯนั้นออกโดย ธนาคารพาณิชย์ถึง 6 แห่ง คือ ธนาคารไอซีบี (ไทย), ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งทั้ง 6 ธนาคารก็คือพันธมิตรที่ปล่อยกู้ให้ True Move H นั่นเอง ขณะที่ทาง JAS Mobile นั้นต้องชำระภายในวันที่ 21 มีนาคมเป็นวันสุดท้าย (90 วันหลังจากการประกาศผู้ชนะการประมูล) โดยจากข่าวเมื่อตอนที่ JAS ชนะนั้นชัดเจนมากว่าจะเป็นธนาคารเดียวเลย นั่นคือธนาคารกรุงเทพ ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในไทย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่ชัดเจน และดูเงียบงัน มีแม้แต่ข่าวที่ว่าทางธนาคารกรุงเทพ ได้ชักชวนให้ธนาคารกสิกรไทยเข้ามาร่วมด้วยในการปล่อยกู้ครั้งนี้ ยิ่งใกล้วันครบกำหนด 21 มีนาคมยิ่งมีข่าวลือแรงขึ้นเรื่อย แม้แต่ทาง กสทช. ก็ออกมาบอกว่ายังไม่มีการติดต่อมาจากทาง JAS Mobile เลย

011

สุดท้ายวันที่ 21 มีนาคมก็มาถึงเรียกได้ว่าแทบนับกันเป็นชั่วโมง นาทีกันเลยทีเดียว สุดท้ายถึงเส้นตาย จนกระทั่งเวลา 16:00 เป็นอันครบกำหนดโดยที่ JAS Mobile ไม่ปรากฏตัว ไม่มีข่าวหรือการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น 16:40 ทาง กสทช. เลยตั้งโต๊ะแถลงข่าวทันทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป สิ่งแรกที่ JAS Mobile จะโดนก็คือการถูกยึดเงินประกันการประมูล มูลค่า 644 ล้านบาท รวมถึงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประมูลที่ผ่านมา (เพราะ กสทช. จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการประมูลใหม่อีกรอบ) และจะถูกแบนไม่สามารถเข้าร่วมงานประมูลงานใดๆ ที่ทาง กสทช. จะจัดขึ้นในอนาคต รวมถึงอาจมีผลต่อใบอนุญาตทางด้านโทรคมนาคมอื่นๆ อีกด้วย
กระนั้นทาง กสทช. ได้ประเมินเบื้องต้นว่ามูลค่าเริ่มต้นที่จะประมูลใหม่น่าจะเริ่มที่ 75,654 ล้านบาทหรือราคาสุดท้ายที่ JAS Mobile เคาะชนะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่มีใครเข้าร่วมประมูล ทาง กสทช. จะเก็บคลื่นนี้ไว้ 1 ปีเป็นอย่างน้อยแล้วค่อยมาจัดประมูลกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทาง กสทช.จะสรุปอีกครั้งหนึ่งหลังจากการประชุมภายในเสร็จสิ้นสำหรับรายละเอียดของการประมูลใหม่ที่จะเกิดขึ้น

ขณะที่ทาง JAS Mobile ได้ออกมาแถลงข่าวหลังจากหายไปหลายวันจากวันที่เลยเส้นตายไปแล้ว โดยทางผู้บริหาร JAS Mobile ได้ออกมาบอกว่าความจริงแล้วทาง JAS Mobile เองได้ตกลงกับทางธนาคารกรุงเทพแล้วสำหรับหนังสือค้ำประกันฯ แต่ทางธนาคารกรุงเทพ ไม่สามารถออกให้ทาง JAS Mobile ได้ในวงเงินทั้งหมด 72,000 ล้านบาทเพราะมากเกินไปเมื่อดูประกอบกับแผนธุรกิจที่ทำมา ทาง JAS Mobile เลยต้องวิ่งเต้นหาพันธมิตรต่างชาติเพื่อมาช่วยในการเป็นหุ้นส่วน ซึ่งทาง JAS Mobile อ้างว่ากว่าจะได้พันธมิตรที่ใช่และมีความเข้าใจตรงกัน เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปพอสมควร กว่าที่บริษัทพันธมิตรที่ว่าซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศจีน ซึ่งต้องทำเอกสารการจดทะเบียนบริษัทอีกมากมาย ทำให้ไม่สามารถทำเรื่องได้ทัน จนในวันสุดท้ายของการจ่ายงวดแรกก็เลยต้องฟาวล์ไปในที่สุด และไม่สามารถนำจ่ายค่าใบอนุญาตรวมถึงหนังสือค้ำประกันได้ทันตามกำหนดเวลาที่ทาง กสทช. กำหนดไว้ เลยทำให้ต้องโดยยึดเงินประกัน 644 ล้านบาทไปในที่สุด ปิดฉากการเป็นโอเปอร์เรเตอร์เอกชนรายใหม่ไปอย่างที่ไม่คาดคิด… ทั้งๆ ที่มีกองเชียร์อยู่เพียบ…

แล้วการประมูล 900 MHz รอบสองก็ต้องเกิดขึ้นจนได้…ตามคาด

หลังจากที่ทาง JAS Mobile ตกม้าตายไปเองนั้นก็เกิดความหวังขึ้นมา ว่าใครจะได้ใบอนุญาตคลื่น 900 อีกใบหนึ่งไปครอง สิ่งที่น่าสนใจก็คือการที่ AIS ได้ขอคุ้มครองชั่วคราวกับศาลปกครองกลางสำหรับซิม AIS ที่ใช้อยู่บนคลื่น 900 MHz เพื่อไม่ให้ซิมดับ โดยศาลได้ให้อนุญาต AIS ไม่ต้องดับเครือข่าย GSM 900 MHz เดิม โดยยืดอายุออกไปอีก 1 เดือนเพื่อคุ้มครองผู้ใช้ซึ่งเส้นตายอยู่วันที่ 14 เมษายน ขณะที่ทาง AIS ก็เร่งเชิญชวนลูกค้าให้มาเปลี่ยนเครื่องเปลี่ยนซิมเป็นการใหญ่ โดยใช้การประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ วิทยุ และสื่ออื่นๆ อย่างเต็มกำลังและหวังว่าฐานลูกค้าเดิมของตนเองจะไม่ย้ายค่ายไปเจ้าอื่น

maxresdefault

ขณะที่ก็มีการประกาศตัวเป็นพันธมิตรอันดูน่าชื่นใจระหว่าง AIS และ dtac ที่เป็นคู่แข่งกันมาตลอดตั้งแต่ยุคที่เริ่มทำระบบโทรศัพท์มือถือ (ดีแทคยังมีเครือข่าย GSM 1800 ใช้งานอยู่อีกสองปี) โดย dtac ได้เปิดให้ทางผู้ใช้ของ AIS สามารถโรมมิ่งบนเครื่องเดิมและซิมเดิมมาใช้เครือข่าย dtac ได้ ทำให้เกิดการวิจารณ์ในมุมบวกออกมาว่ายังมีน้ำจิตน้ำใจกันเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ส่วนอีกด้านหนึ่ง True Move H นั้นจ้องจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาสำหรับลูกค้า AIS ที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะทำอย่างไร ด้วยการประกาศเชิญชวนคนมาย้ายค่ายโดยใช้ร้านสะดวกซื้อในสังกัด CP ALL อย่าง 7-Eleven มาเป็นฐานทัพ และมีสื่อชักชวนรวมถึงให้ข้อมูลด้านเดียวต่อลูกค้าจนเกิดคำครหาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายในโลกออนไลน์และเว็บพันทิพ จนมาถึงวันที่ 4 เมษายนทาง AIS ได้ขอยื่นต่อ กสทช. เพื่อแสดงเจตจำนงว่าทาง AIS พร้อมจ่ายค่าใบอนุญาตเต็มจำนวนเท่ากับมูลค่าที่ JAS Mobile ประมูลชนะไปแล้วไม่มาเอา จุดนี้ต้องบอกว่าทาง AIS นั้นพยายามพลิกเกมเป็นอย่างมาก เพื่อยื้อให้ลูกค้าตัวเองไม่ซิมดับ เพราะถ้าไม่ทำแล้ว ยังไงวันที่ 14 เมษายนนั้นซิมของ AIS เก่าต้องดับลงอย่างแน่นอน แล้วรอวันประมูลคลื่น 900 MHz รอบสองซึ่งจะเกิดขึ้นในปลายเดือนมิถุนายนนั้น อาจทำให้ AIS สูญลูกค้าไปอีกหลายล้านรายก็เป็นได้

ในขณะที่ทาง กสทช.นั้นไม่สามารถตัดสินใจตรงจุดนี้ได้เพราะขัดต่อกฎหมาย (แต่ถ้ามองอีกด้าน ถ้าทำได้ กสทช. ก็จะได้เงินประมูลตามที่ควรจะเป็น แล้วไม่ต้องไปจ่ายเงินเพื่อจัดประมูลใหม่อีกรอบหนึ่ง) กสทช. ได้ตัดสินใจชงเรื่องไปที่ คสช. เพื่อให้ทาง คสช. นั้นตัดสินใจ เพราะว่าถ้าทาง คสช. และรัฐบาลเป็นเพียงคนเดียวที่จะ Over rule หรือเปลี่ยนกฎนั้นได้โดยไม่ผิดกฎหมาย (ม.44 ว่าด้วยประกาศของคณะปฏิวัติ) สุดท้ายทาง คสช. ก็ตัดสินใจไม่ใช้ ม.44 และประกาศออกมาว่าให้ทาง AIS นั้นได้รับคุ้มครองในมาตรการเยียวยาระบบเดิมไปก่อนจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 หรือจนกว่าจะได้ผู้ชนะรายใหม่ (อันใดถึงก่อนกัน) โดยการประมูลจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 พ.ค. (เร็วขึ้นหนึ่งเดือน) และให้เริ่มต้นประมูลที่มูลค่าของผู้ชนะเดิมที่ 75,654 ล้านบาท ซึ่งการประมูลจะเปิดโอกาสให้รายอื่นๆ เข้าร่วมได้ (ไม่ปิดกั้น True Move H… อืมอันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วย ทั้งๆ ที่มติภายในของ กสทช. นั้นไม่ให้ True Move H เข้าประมูลอีก เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นผูกขาดไป.. งงจริงๆว่า คสช. คิดอะไรอยู่ และแน่นอน JAS Mobile เข้าร่วมไม่ได้ แต่ถ้า Jasmin International บริษัทแม่ต้นสังกัดไปจดทะเบียนบริษัทใหม่เข้ามาประมูลล่ะ… ทำได้ไหม?? อันนี้น่าคิดนะ…)

ขณะที่ผู้เข้าร่วมประมูลต้องวางหลักประกันเป็นเงิน 3,783 ล้านบาท ทั้งนี้ ในคำสั่งที่ออกมานี้ ระบุชัดเจนว่าไม่เป็นการตัดสิทธิหน่วยงานรัฐ ในการเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายอื่น ตามประกาศประมูลคลื่น 900 MHz ของ กสทช. ฉบับที่แล้ว ซึ่งก็แปลว่า JAS มีโอกาสถูกฟ้องจากการไม่ชำระเงินประมูลในรอบที่แล้ว และยังกำหนดเพิ่มว่า หากในรอบนี้ผู้เข้าร่วมประมูลไม่มาชำระเงิน จะต้องเสียค่าปรับอย่างน้อย 11,348 ล้านบาทเลยเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเก่าเกิดขึ้นอีก
Business-communication-2-600x400

การประมูลจะจบลงอย่างไร ใครจะเข้าประมูล… ใครน่าจะชนะ….

แน่นอนตามประกาศของทาง คสช. และทาง กสทช. นั้น การประมูลจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 27 พ.ค. อย่างแน่นอน โดยเริ่มต้นที่ 75,654 ล้านบาท โดยการเคาะการประมูลจะเริ่มต้นทีละ 152 ล้านบาท บริษัทที่เข้าไปรับเอกสารการประมูลรายแรกนั้นก็คือ AWN (Advanced Wireless Network) หรือบริษัทในเครือ InTouch, AIS นั่นเอง โดยมารับเอกสารไปตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ สามารถมาขอรับเอกสารได้ถึง 17 พ.ค. และในวันที่ 18 พ.ค. 59 จะเปิดให้ยื่นคำขอพร้อมวางเลิกหลักประกันการประมูลจำนวน 3,783 ล้านบาท ทั้งนี้หากเป็นผู้ประกอบการรายเดิมที่เคยยื่นไปแล้วเมื่อการประมูล 900 เมกะเฮิร์ตซ์ครั้งนั้นก็ขอยืนยันเอกสารเดิมได้ แต่หากเป็นผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาร่วมประมูลต้องตรวจสอบคุณสมบัติใหม่และจะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเข้าร่วมประมูลได้ในวันที่ 23 พ.ค. 2559 จากนั้นวันที่ 25 พ.ค. 2559 จะเปิดให้สื่อมวลชนและผู้ประกอบการทดสอบการประมูลก่อนจะมีการประมูลจริงในวันที่ 27 พ.ค. 2559

ais_logo-1200x800 logo dtac 020

ที่แน่ๆ ตอนนี้มีคนถอนตัวไป 1 รายแล้ว นั่นก็คือ dtac นั่นเอง dtac มองว่าการกลับไปประมูลอีกครั้งควรกลับไปเริ่มต้นในขั้นต่ำที่ควรจะเป็นคือ 16,080 ล้านบาท ตามกติกาเดิม เนื่องจากผู้ชนะประมูลรอบก่อนที่ได้สิทธิไปแล้วไม่มาจ่ายเงิน ตรงนี้น่าจะถือว่าโมฆะเพราะการที่ผู้ชนะเดิมไม่มีกำลังในการจ่าย มูลค่าที่มีการเคาะราคาแข่งกัน ก็ควรจะเป็นราคาที่ไม่สมเหตุสมผล แต่ขณะที่ กสทช. ต้องการเริ่มที่ 75,654 ล้านบาทด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ชนะอีกรายหนึ่งที่ยอมจ่ายในมูลค่าใกล้เคียงกันคือ 76,298 ล้านบาท ทำให้ทาง dtac ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูล โดยทาง dtac เชื่อว่าความถี่ที่ยังถือครองในปัจจุบันยังมีมากพอที่จะให้บริการลูกค้าต่อไป (dtac มี 2100 – 15 MHz, 850 – 10 MHz, 1800 – 25 MHz รวมเป็น 50 MHz) ถึงแม้ว่าความถี่ย่าน 850, 1800 MHz ของ dtac จะหมดสัญญาในอีกสองปีข้างก็ตาม dtac ก็เชื่อว่าถึงตอนนั้น dtac ก็จะสามารถชนะประมูลในความถี่ 1800 MHz เดิมของตัวเอง แล้วกลับมาใช้ได้อีกในอนาคต

jury-1041589_1920

ตอนนี้ก็ต้องมาดูกันต่อว่าทาง True Move H จะเข้าร่วมประมูลอีกไหม แต่ถ้ามองดูในความเป็นจริงไม่น่าให้ร่วมอีก เพราะได้ชนะไปแล้วสำหรับความถี่ 900 MHz ใบรอบแรก เพราะถ้าเกิด True Move H ไม่ได้อยากได้จริง แต่การเข้าไปเคาะราคาร่วมแข่ง อาจทำให้ราคาสูงเกินจริงขึ้นไปอีก ในกรณีที่ทาง AIS ต้องการชนะการประมูลครั้งนี้อย่างไม่มีทางเลือก เพราะถ้าเคาะแพ้ ก็อาจจะเสียเปรียบอีกเพราะทาง True Move H จะได้ความถี่ 900 MHz ไปอีก ต้องติดตามว่าการประมูลครั้งนี้จะมีการพลิกโผหรือไม่ โดยส่วนตัวผมฟันธงว่า AIS จะทุ่มเงินเพื่อชนะการประมูลในครั้งนี้ เพราะเป็นความสำคัญต่อการต่อสู้ในเกมการให้บริการไร้สายนี้กับ True Move H และ dtac ต่อไปในระยะยาว

อนาคตของการประมูล ต่อจากนี้ เมื่อไรจะถึงรอบต่อไป….

หลังจากจบการประมูลความถี่ 900 MHz นี้ลง สำคัญมากว่าจะมีการประมูลความถี่ย่านใดออกมาอีกในอนาคตอันใกล้ ใกล้ตัวก่อนเลยก็คือความถี่ย่าน 850 MHz ที่ทาง dtac ถือครองอยู่ 10 MHz และความถี่ย่าน 1800 MHz ที่ทาง dtac ถือครองอยู่ 25 MHz ทั้งสองคลื่นนี้จะหมดอายุตามสัญญาสัมปทานเดิมที่ทาง dtac มีอยู่กับทาง กสท. โทรคมนาคม (CAT) ในปี 2561 หรืออีกสองปีข้างหน้า และอีกอันก็คือความถี่ย่าน 1800 MHz ที่ทาง CAT ถือครองอยู่อีก 20 MHz ก็จะหมดอายุในปี 2561 เช่นกัน เพราะฉะนั้นแปลว่า ในปลายปี 2561 หรืออาจจะเป็นปี 2562 ทาง กสทช. น่าจะจัดการประมูลความถี่ย่าน 850 MHz จำนวน 10 MHz (1 ใบอนุญาต) และความถี่ย่าน 1800 MHz อีกจำนวน 45 MHz (3 ใบอนุญาต ใบละ 15 MHz) ซึ่งเป็นไปได้มากว่าอาจมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้าร่วมประมูลอีกก็เป็นได้

man-person-hands-apple

แต่อย่างน้อย dtac ก็คงต้องเข้าประมูลเพื่อสิทธิในการนำเอาความถี่เดิมที่ตัวเองเคยใช้กลับเข้ามาสู่สารระบบเพื่อต่อสู้กับ AIS, True Move H ต่อไป นอกจากนี้ความถี่ย่านอื่น อาทิเช่น ความถี่ย่าน 2300 MHz ที่ทาง TOT ถือครองอยู่ 64 MHz จะหมดอายุลงในปี 2568 หรืออีกเก้าปีข้างหน้า ความถี่ย่านนี้ก็สามารถนำมาใช้ 4G, 5G ได้ในอนาคต และอีกย่านความถี่หนึ่งก็คือความถี่ย่าน 2600 MHz ที่ทาง MCOT ถือครองอยู่ 60 MHz ก็เป็นอีกความถี่ที่สามารถนำไปใช้กับ 4G, 5G ในอนาคตได้ต่อไปเช่นกัน ก็ต้องติดตามกันต่อครับว่า ทาง กสทช. จะสามารถจัดสรรความถี่เหล่านี้เพื่อให้เอกชน หรือรัฐวิสาหกิจได้นำมาใช้แล้วนำเงินเข้ารัฐ และพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อชาติของเราได้อย่างไรต่อไปในอนาคต เพราะคลื่นความถี่ทั้งหลายเป็นสมบัติของชาติ เพื่อบริการสาธารณะที่สำคัญและเพื่อคนไทยทุกคน
สำหรับแฟนๆท่านใดที่มีคำถาม สามารถติดตามมาได้ที่ twitter ของผม @peter2514 นะครับ ส่วน facebook ตามมาได้ที่ Techoffside ถ้าจะติดตาม Instagram ก็ Search หา ID “peter2514” ได้นะครับ แล้วเจอกันใหม่ฉบับหน้านะครับ ขอบคุณทุกการติดตามครับ

 

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save