รีวิวมือถือ LG V10 (H962) อัพเกรดความพรีเมียมให้ครบเครื่อง

By Gartoon

Posted on 14 March 2016

LG V10 (H962)

LG V10 ถูกเปิดตัวออกมาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดย LG วางตำแหน่งให้เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงลำที่ 2 ของปี 2015 แต่น่าเสียดายที่ดันเปิดตัวออกมาไล่เลี่ยกันกับช่วงเวลาที่แผนกมือถือของทาง LG ได้ตัดสินใจพักการทำตลาดในไทยชั่วคราว ทำให้แฟนๆ LG รวมไปถึงผู้ที่สนใจการมาของ LG V10 ต่างก็ได้รับประทานแห้วไปตามๆ กัน แต่ถึงกระนั้นทาง WhatPhone ก็ยังโชคดีที่ได้มีโอกาสทดลองใช้งาน LG V10 รหัสรุ่น H962 ซึ่งเป็นเครื่องของประเทศไต้หวัน เลยตัดสินใจนำมารีวิวให้ได้อ่านแก้คิดถึง ระหว่างรอ LG กลับมาทำตลาดมือถือในไทยอีกครั้ง

สำหรับ LG V10 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่พัฒนาต่อยอดขึ้นมาจากรุ่นพี่อย่าง LG G4 ทำให้สเปค และความสามารถพื้นฐานต่างๆ มีความคล้ายคลึงกัน แต่ LG V10 จะถูกออกแบบให้ดูพรีเมียม เรียบหรู และรองรับการใช้งานที่สมบุกสมบันกว่า ด้วยขอบสแตนเลส Dura Guard และ ฝาหลัง Dura Skin พร้อมเข้ารับการทดสอบปล่อยตัวเครื่องตกลงสู่พื้นจากความสูง 1.2 เมตรา จนผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G shock resistant เสริมความมั่นใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งาน LG V10 ยังคงมาพร้อมกับขุมพลังจากชิป Snapdragon 808 แต่ได้มีการอัพเกรด Ram เพิ่มเป็น 4 GB รองรับการใช้งานมัลติมีเดีย จำพวกการตัดต่อวิดีโอได้ลงตัวกว่า แถมยังส่งผลให้การใช้งานโดยรวม รวดเร็วลื่นไหล แม้มีการใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาไม่ให้น้อยหน้าสมาร์ทโฟนเรือธงจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งจากการทดลองใช้ก็ถือว่าสามารถสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว

Physical Overview

LG V10 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5.7 นิ้ว มีความละเอียดระดับ QHD ให้สีสันสดใสด้วยเทคโนโลยี Quantum Display ทนทานด้วยกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 เสริมความพิเศษด้วยหน้าจอที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่แสดงข้อมูลต่างๆ ทั้งในขณะเปิด และปิดหน้าจอ พร้อมกล้องหน้าคู่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

พื้นที่ด้านล่างของหน้าจอมีเพียงโลโก้ของ LG ในส่วนของแผงปุ่มควบคุมแบบสัมผัส นั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็น Virtual Button ที่แสดงผลอยู่บนหน้าจอ ซึ่งรองรับการตั้งค่าเพื่อสลับ, เพิ่มปุ่มสั่งงาน ได้อย่างอิสระ

ขอบข้างของ LG V10 มีชื่อเรียกว่า Dura Guard ถูกออกแบบมาให้มีความหรูหรา ทนทานต่อการใช้งานที่สมบุกสมบัน ใช้วัสดุเป็นสแตนเลส SAE เกรด 316L ซึ่งเป็นเกรดที่ใช้ในอุปกรณ์ผ่าตัด, ใช้ในชิ้นส่วนของเรือเดินสมุทร ฯลฯ

ขอบด้านบนของ LG V10 มี IR Blaster หรือพอร์ตอินฟราเรด สำหรับใช้งานร่วมกับแอพ QuickRemote สั่งงานอุปกรณ์ภายในบ้านได้อย่างหลากหลาย ถัดไปอีกฝั่งจะพบกับไมโครโฟนตัวที่ 2 จัดวางอยู่

ขอบล่างของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต microUSB สำหรับเสียบสายชาร์จ (รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0) และสายดาต้าเพื่อโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ใกล้ๆ กันคือช่องไมโครโฟนสนทนา นอกจากนี้ลำโพงตัวเครื่องยังได้ถูกย้ายมาไว้ที่ขอบล่างนี้เช่นกัน

ฝาหลังของ LG V10 หุ้มด้วยพื้นผิว Dura Skin ให้สัมผัสที่นุ่ม หนึบ ทนทานต่อแรงกระแทก และรอยขีดข่วน สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ ก็จะมีเลนส์กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, แถบ Laser AF, แฟลช LED พร้อม Color Spectrum Sensor และขาดไม่ได้กับแผงปุ่ม Rear Key ที่อัพเกรดเพิ่มความสามารถด้วยปุ่มสแกนลายนิ้วมือ

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องใส่ nanoSIM 2 ช่อง , ช่องใส่ microSD และแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh แบบถอดเปลี่ยนได้

Second Screen

อีกหนึ่งจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้กับLG V10 คือหน้าจอที่ 2 หรือ Second Screen ขนาด 2.1 นิ้วที่ขอบบนของจอหลัก ซึ่งทำงานแบบ Always On แสดงผลได้ตลอดเวลาแม้ในขณะที่ปิดหน้าจอหลัก (เลือกตั้งค่าปิดการใช้งานได้) โดยมันจะทำหน้าที่แสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ รวมไปถึงแสดงไอคอนทางลัดเข้าสู่การใช้งานฟังก์ชั่นพื้นฐาน และในขณะใช้งานหน้าจอหลัก เรายังสามารถเลือกตั้งค่าให้จอที่ 2 แสดงผล Recent Apps, Quick Contact, App Shortcut, Music Player และสามารถใส่ลายเซ็นเฉพาะตัวเอาไว้บนหน้าจอที่ 2 ได้อีกด้วยและสำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ ที่หลายคนอาจสงสัยว่า แบต 3,000 mAh มันจะเพียงพอต่อการใช้งานหน้าจอที่ 2 ซึ่งเปิดเอาไว้ตลอดเวลาหรือเปล่า ทางเราต้องขอบอกว่า จอที่ 2 นั้นจะแสดงผลแบบขาว-ดำด้วยไฟ Backlight ซึ่งมีอัตราการกินไฟต่ำ แต่ถ้ามองไปถึงการใช้งานทั่วไป แบต 3,000 mAh สำหรับมือถือสเปคระดับนี้ เรียกได้ว่าไม่ใช่ความจุที่เยอะสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป พกออกไปนอกบ้าน ใช้งานได้เกือบทั้งวัน (ประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง) ส่วนใครที่เน้นเล่นเกม หรือเปิดดูวิดีโอยาวๆ แนะนำว่ามีแบตสำรองเอาไว้อุ่นใจกว่า แต่ถ้าแบตหมดแล้วต้องรีบใช้งานด่วนๆ ระบบ QuickCharge 2.0 ของLG V10 ถือเป็นอะไรที่ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จไปได้เยอะเลยทีเดียว

Camera

ด้วยหน้ากระดาษที่มีจำกัด เราขอข้ามเรื่องการใช้งานกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีลูกเล่น และให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดี แทบไม่แตกต่างจากรุ่นพี่ อย่าง LG G4 แต่จะขอมาเน้นที่ของใหม่อย่างกล้องหน้าฝาแฝดความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่แม้จะลดความละเอียดลงจาก G4 แต่ก็มาพร้อมลูกเล่นที่มากกว่า กับฟังก์ชั่นการถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง ด้วยเลนส์ตัวที่ 2 ซึ่งมีมุมกว้างถึง 120 องศา เก็บได้ครบโดยไม่ต้องแพนกล้อง หรือจะเลือกถ่ายเซลฟี่มุมปกติ จากเลนส์ธรรมดาของกล้องอีกตัวก็ได้ นอกจากนี้ LG V10 ยังได้อัพเกรดความสามารถของโหมดวิดีโอ ที่มาพร้อมระบบกันสั่น OIS บวกกับระบบกันสั่นแบบ EIS (ผ่านซอฟแวร์) ที่เรียกว่า Steady Shot ช่วยลดการสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโอได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกตั้งค่าแบบ Manual ได้เหมือนกับโหมดการถ่ายภาพนิ่ง และมีการเพิ่มคุณภาพให้กับการบันทึกเสียงในวิดีโอ ด้วยไมค์ 3 ตัว ที่เลือกเน้นความดัง จากทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียงที่ต้องการได้ เสริมด้วยระบบลดเสียงลมจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เล็ดรอดเข้ามารบกวนขณะถ่ายวิดีโอ

Connectivity

การเชื่อมต่อของ LG V10 ยังคงจัดเต็มมาให้แบบครบครัน รองรับทั้ง 4G, 3G ทุกเครือข่าย ใช้งานได้จากทั้ง 2 ซิม (ต้องเลือกสลับใช้งาน) พร้อม Wi-Fi ที่สามารถใช้งานเป็น Wi-Fi Hotspot แชร์อินเตอร์เน็ตให้อุปกรณ์อื่นๆ และสามารถใช้งาน Miracast แชร์หน้าจอของ LG V10 ขึ้นไปแสดงผลบนหน้าจออื่นๆ ที่รองรับ พร้อมชิป NFC สำหรับการส่งข้อมูลระยะใกล้ และยังคงมี Infrared Port เอาไว้ให้ใช้งาน Quick Remote เพื่อสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างสะดวก (ใช้ได้กับอุปกรณ์บางประเภท, บางรุ่นเท่านั้นนะครับ)

Final Opinion & Conclusion

จะเรียกLG V10 ว่าเป็น LG G4 รุ่นที่ปรับปรุงความสามารถให้เข้าที่เข้าทางก็ไม่ผิดนัก ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการอัพเกรด และการใช้งานกล้องซึ่งครบเครื่องกว่าเคย จากที่การบันทึกวิดีโอนั้นเคยเป็นจุดอ่อนของ LG G4 นอกจากนี้ยังถือเป็นการลองอะไรใหม่ๆ อีกครั้งของทาง LG ด้วยกล้องหน้าคู่ และหน้าจอ Second Screen ที่ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่ได้มีไว้แค่เป็นกิมมิคในการอัพราคา ส่งผลให้ LG V10 เป็นสมาร์ทโฟนระดับสูงอีกรุ่น ที่คุ้มค่าน่าลอง ดูลงตัวทั้งประสิทธิภาพ และการออกแบบตัวเครื่อง แต่ติดอยู่นิดเดียวที่ไม่มีเครื่องศูนย์วางจำหน่ายในไทย สำหรับใครที่สนใจก็คงต้องไปตามหาจากร้านที่หิ้วเข้ามาขาย หรือไม่ก็ต้องอดใจรอให้ LG กลับมาทำตลาดมือถือในไทยอีกครั้ง

Strength

หน้าจอสัมผัส IPS Quantum Display ขนาด 5.7 นิ้ว, ความละเอียด 2K QHD
จอ Second Screen ช่วยแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ และเป็นทางลัดเข้าสู่การใช้งานที่หลากหลาย
ระบบปฏิบัติการ Android 1.1 (Lollipop), LG UX4.0
ทนทานด้วยกระจก Gorilla Glass 4, ขอบเครื่องสแตนเลส Dura Guard, ฝาหลัง Dura Skin
CPU Qualcomm Snapdragon 808 Hexa-core, แรม 4 GB
หน่วยความจำภายใน 64 GB, เพิ่ม microSD ได้, รองรับ USB OTG
แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้, รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0
กล้อง 16 ล้านพิกเซล f/1.8 พร้อมระบบ Laser Auto Focus, แฟลช LED, ถ่าย RAW ไฟล์
กล้องหน้าแบบคู่ 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง 120 องศา
ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K, รองรับการตั้งค่า Manual, กันสั่น OIS/ EIS
ระบบเสียง Hi-Fi, 32 bit DAC
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน 4G, 3G, Wi-Fi และ NFC/ มีพอร์ท Infrared

Weakness

ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก
แบตเตอรี่ความจุน้อยไปหน่อย

รูปตัวเครื่อง LG V10

LG V10 4-01 LG V10 4-02 LG V10 4-03

รูปหน้าจอ LG V10

ข้อมูลทั่วไป	ปรมาณ 22,000 บาท (LG ประเทศไทยไม่นำเข้ามาจำหน่าย)
ขนาด, น้ำหนัก	159.6 x 79.3 x 8.6 มิลลิเมตร, 192 กรัม
เครือข่าย	GSM 850/ 900/ 1800/ 1900 MHz HSDPA 850/ 900/ 1900/ 2100 MHz LTE 700/ 900/ 1800/ 1900/ 2100/ 2300/ 2500/ 2600 MHz
แบตเตอรี่	Li-Ion 3,000 mAh
ระยะเวลาสแตนด์บาย	ไม่ระบุ
ระยะเวลาสนทนา	ไม่ระบุ
ระบบการทำงาน
ระบบปฏิบัติการ	Android 5.1.1 (Lollipop)
หน่วยประมวลผล	Qualcomm MSM8992 Snapdragon 808 Hexa-core (Dual-core 1.82 GHz Cortex-A57 & Quad-core 1.44 GHz Cortex-A53), Adreno 418 GPU
หน่วยความจำภายใน	64 GB ROM, 4 GB RAM
หน่วยความจำภายนอก	microSD สูงสุด 2 TB
จำนวนซิมการ์ด, ประเภท	2, nanoSIM
จอแสดงผล
ความละเอียด, ขนาด	1440 x 2560 พิกเซล, ขนาด 5.7 นิ้ว (515 ppi) จอที่ 2 ความละเอียด 160 x 1040 พิกเซล, ขนาด 2.1 นิ้ว
ชนิดและจำนวนสี	IPS Quantum LCD capacitive touchscreen, 16.7 ล้านสี
เสียง
การใช้คำสั่งเสียง	มี
ลำโพงสเตอริโอ	ไม่มี
แฮนด์ฟรี	มี
บันทึกเสียง	มี (ไมโครโฟน 3 ตัว)
มัลติมีเดีย
กล้องหลัง	ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (f/1.8), Laser AF, LED Flash, OIS 2.0, Color Spectrum Sensor
กล้องหน้า	กล้องคู่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (f/2.2, เลนส์ Wide 120 องศา, เลนส์ธรรมดา 80 องศา)
กล้องวิดีโอ	4K 2160p, FullHD 1080p, Manual Video Mode, ระบบกันสั่นขณะถ่ายวิดีโอ Steady Record, บันทึกเสียงด้วยไมค์ 3 ตัว
วิทยุ FM	มี
เครื่องเล่นเพลง MP3	มี
เครื่องเล่นวิดีโอ	มี
การเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูล
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก	บลูทูธ 4.1 (A2DP), USB 2.0 (USB OTG), Wi-Fi ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Hotspot, NFC, Infrared Port
3G	HSDPA, 42 Mbps; HSUPA, 21 Mbps
4G LTE	LTE Cat9, 50 Mbps UL, 450 Mbps DL
อื่นๆ	เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, 32 bit Hi-Fi DAC